“บิ๊กต๊อก”เผย ศอตช.ไม่ได้ชง คสช.ใช้ ม.44 พักงาน“คุณชายหมู” แค่สอบทางปกครอง-ระเบียบวินัย ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องทางอาญา
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 50/2559 เรื่องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 6 โดยอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 หัวหน้า คสช.มีคําสั่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระงับการปฏิบัติราชการ หรือหน้าที่ในกรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราวโดยยังไม่พ้นจากตําแหน่ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคําสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนในระหว่างนี้ ว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้ผ่านทาง ศอตช. ซึ่งตนต้องเรียนว่าทางต้นสังกัดสามารถดำเนินการได้ แต่ที่ผ่านมาก็มีข้อมูลเข้ามายัง ศอตช. แต่ทาง ศอตช.ให้กลับไปตรวจสอบเพิ่มเติม
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันผู้บังคับบัญชาในอำนาจหน้าที่ก็สามารถดำเนินการได้ โดยเสนอผ่านทาง คสช. จึงไม่จำเป็นต้องมาผ่านที่ ศอตช.ก็ได้ ทั้งนี้ ทุกหน่วยทุกกระทรวงสามารถทำได้ ส่วนการตรวจสอบในประเด็นที่ ศอตช.เคยตรวจสอบนั้นก็คงต้องจบไป เพราะการตรวจสอบของ ศอตช.เป็นการตรวจสอบในเรื่องระเบียบวินัย และการปกครอง เมื่อเรื่องของการปกครองได้ดำเนินการออกไปแล้วก็ต้องไปว่ากันในเรื่องทางอาญา ซึ่งก็ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะฝ่ายกฎหมาย คสช. ทราบหรือไม่ว่าเป็นประเด็นที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) ตรวจสอบไว้หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ในฐานะฝ่ายกฎหมายของ คสช. เราทำอยู่หลายเรื่อง ซึ่งบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องผ่านทางเราเสมอไป ส่วนตนจะคุมกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.ใหญ่ๆ ในภาพกว้าง บางจำเพาะ หรือที่มาจากทางเลขาฯคสช.ก็มี ที่ปรึกษา คสช.ก็มี ไม่จำเป็นต้องมาผ่านตรงนี้ แต่เรื่องใหญ่ๆ ที่เราดูแลกันก็คือกฎหมาย และ พ.ร.บ.ต่างๆ ที่ฝ่ายกฎหมายเราดูและเร่งรัดให้ทุกหน่วยได้ทำงาน หากเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องก็จะประชุมร่วมกัน