หนุ่มใหญ่เรียนโฟโต้ชอปจากเด็ก ปลอมเอกสารเอาเงินประกัน อ้างได้เงินมาบริจาค

จับหนุ่มใหญ่ปลอมแปลงเอกสารของศาลหวังนำไปประกอบเป็นหลักฐานรับเงินของพี่ชายที่เสียชีวิต เมื่อขยายผลยังทำให้พบอีกว่าได้มีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการในการขอรับเงินจากบริษัทประกันอีกหลายรายการ และพบตรายางประทับชื่อ ตำแหน่งหน่วยงานราชการอีกกว่า 50 อัน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม 2559 พ.ต.ท.อำนาจ ฉิมมา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ได้นำตัว นายเพชรรัตน อัตรัง อายุ 46 ปี ชาว หมู่ที่ 7 ต.หนองเรือ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู มาทำการสอบสวนพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ เอกสาร สมุดฝากบัญชีธนาคาร 4 เล่ม เอกสารโฉนดที่ดิน เอกสารที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่งพร้อมทั้งตรายางประทับชื่อตำแหน่งและหน่วยงานทางราชการอีกหลายหน่วยงาน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึง พฤติกรรมในการปลอมแปลงเอกสาร ในการกระทำผิด หลังจากที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภูได้ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ทำการจับกุมตัว ชายดังกล่าวได้ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่หมู่บ้านหนองเรือ ต.หนองเรือ อำเภอโนนสัง หลังได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู

โดยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 นายสมชาย เนนุมารักษ์ ผู้อำนวยการศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.นิรันทร์ ปัดสาโท สาวรวัตรเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู ว่า นายเพชรรัตน อัตรัง ได้มีการปลอมแปลงเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมแปลง คำพิพากษาศาลจังหวัดหนองบัวลำภู หลังได้รับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั้งทราบว่า นายเพชรรัตน อัตรัง ได้เปิดร้านคาราโอเกะ อยู่ในหมู่บ้านหนองเรือ ทำตัวเป็นคนเจ้าสำราญ ใจบุญกุศล จึงได้ร่วมกันเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.โนนสัง ทำการจับกุมที่ปั้มน้ำมันและได้นำไปตรวจค้นหาหลักฐานที่บ้านพักของผู้ต้องหาซึ่งเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ พบว่า มีเอกสารหลายรายการที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องและยังพบว่ามี ตรายางที่ประทับของหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน ตราที่ประทับชื่อ ตำแหน่ง ตราประทับวันที่ ตราประทับสำเนา และอื่นๆอีก 50 กว่ารายการ จึงได้นำตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวน นายเพชรรัตน์ อัตรัง ให้การว่า ได้มีการปลอมแปลงเอกสารหลักฐานของทางราชการที่เป็นคำสั่งศาลจริง เพื่อที่จะนำเอาไปประกอบหลักฐานในการขอรับเงิน จากค่านอนรักษาตัวในโรงพยาบาลจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ของ นายธรรมศาสตร์ อัตรัง พี่ชายและต่อมาได้เสียชีวิต ไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ซึ่งทางบริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้ เป็นเงิน 160,000 บาท แต่ทางบริษัทประกันได้จ่ายเงินเป็นเช็คมาให้ ตนเองต้องการที่จะเอาเงินของพี่ชายที่ได้ทำประกันชีวิตไว้ จึงได้ทำการปลอมแปลงเอกสารที่เป็นคำสั่งศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกไปขอรับเงินจากทางบริษัทประกันภัย ทำให้ทางบริษัทประกันภัยเกิดความสงสัยและได้ขอตรวจสอบไปยังศาลว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งของจริงหรือไม่ และเมื่อทางศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ทำการตรวจสอบพบว่าเป็นคำสั่งปลอม จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหารายดังกล่าว

Advertisement

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายเพชรรัตน อัตรัง ยังให้การรับรับสารภาพว่า ได้ทำเอกสารปลอมใบมรณบัตรของตัวเอง เพื่อไปรับเงินจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งได้มา 800,000 บาท และปลอมไปรับบริษัทอื่นอีก ได้ 1 ล้านกว่าบาท และได้มีการปลอมเอกสารการเสียชีวิตของเด็กตกน้ำที่อำเภอนากลาง แต่ทางพ่อแม่ผู้ตายไม่เอาด้วย โดยผู้ต้องหาบอกว่าตัวเองเรียนจบ ม.3 จากนั้นก็ไปเห็นเด็กนักเรียนทำการแก้ไขภาพจากโปรแกรมโฟโต้ชอร์ป ในการแต่งภาพ จึงให้เด็กสอนให้เพื่อนำเอาวิธีการแก้ไขภาพนำไปใช้ในการจัดทำเอกสารบางอย่างที่เกี่ยวข้อง ส่วนตราประทับของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ นั้นทำจากร้านค้าที่จังหวัดอุดรธานี

นอกจากนั้น นายเพชรรัตน ยังบอกอีกว่า ก่อนที่จะทำแบบนี้ เนื่องจากว่า ก่อนหน้านั้นได้นำเอาหลักฐานบ้านและที่นาไปกู้ยืมเงินจากธนาคารพานิชย์แห่งหนึ่ง จำนวน 3 ล้านบาท และครั้งนั้นทางธนาคารให้ทำประกันชีวิตไว้ด้วยและเงินส่วนหนึ่งถูกทางธนาคารหักไว้ 400,000 บาท ได้เงินมา 2.6 ล้านบาท ส่งธนาคารอยู่ 3-4 ปี บ้านและที่นา ถูกทางธนาคารยึดไป จึงคิดหาวิธีการที่จะให้ได้ทรัพย์สินเหล่านั้นกลับคืนมา จึงได้วางแผนทำเอกสารมรณบัตรปลอมว่าตัวเองเสียชีวิต ไปเอาเงิน ทำให้ได้เงินมาไถถอนที่ดิน บ้านกลับคืนมาไว้ให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องโดยได้ไปสอบถามวิธีการที่จะได้เงินจาก บริษัทประกันชีวิต จากเพื่อนที่ขายประกันชีวิต พร้อมทั้งยังบอกว่า บริษัทประกัน ธนาคาร มักจะเอาเปรียบชาวบ้าน เวลาไปธนาคารก็มักจะให้ทำประกันชีวิต ส่วนเงินที่ได้มาจะเอาไปทำบุญที่วัด ทำประตูโขง บริจาคให้โรงเรียน แจกนักร้อง สาวส่ำน้อย การที่ตัวเองทำก็ไม่ได้ไปโกงประเทศชาติบ้านเมือง แต่โกงคนรวยมาช่วยคนจน แต่ตอนนี้อยากจะติดคุกนานๆ กลัวเจ้าหนี้จะมาตามทวงหนี้

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในพฤติกรรมของผู้ต้องหา ที่ว่ากระทำการโดยคนเดียวและไม่มีใครมีส่วนรู้เห็นด้วย และทำเพียงแค่นี้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดมาได้ มีทั้งเอกสาร โฉนดที่ดิน ที่อ้างว่าชาวบ้านนำมาจำนองไว้อีกจำนวนหนึ่ง ตราประทับของหน่วยงานราชการต่างๆ จำนวนมาก และพฤติกรรมของผู้ต้องหา ยังให้การเหมือนกับคนยังมีการเมาเหล้า ไม่สะทกสะท้านกลัวความผิด และพร้อมที่จะรับโทษที่ตนเองได้กระทำไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image