กลายเป็นที่ฮือฮา หน้า 1 เกือบทุกฉบับ ในวันนี้ เมื่อ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. รรท.บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.
ร่วมกันแถลงจับกุมนางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม (ชื่อเดิมนางกิมเอ็ง แซ่เตียว) อายุ 62 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตาม หมายจับศาลอาญา ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม พร้อมเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา กำไลข้อมือเงิน โดยมีข้อความว่า Long Live The King
โดยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะหลบหนีไปที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ จากนั้นนำตัว นางกิมเอ็ง มาขยายผลค้นห้องพักย่านลาดพร้าว 60 พบทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก
จุดเริ่มของเรื่องดังกล่าว พล.ต.ท.ฐิติราช บอกว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าให้ข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กำลังสืบสวนสอบสวน คดี นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ พี่สาวต่างมารดา ของนางกิมเอ็ง
โดยมีพยานหลักฐาน และให้ข้อมูลว่า มีผู้หญิงอีกราย หนึ่ง มีพฤติการณ์ในลักษณะคล้ายนางไก่ เจ้าหน้าที่จึงสืบสวน เชิงลึก พลิกแฟ้มคดี จึงคาดว่าน่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกันกับนางกิมเอ็ง แซ่เตียว อดีตผู้ต้องหา คดีหลอกลวงผู้อื่นให้บริจาคเงิน โดยอ้างว่าสามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และถูกศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพิพากษาจำคุก 6 ปี
ต่อมาพ้นโทษจึงเปลี่ยนชื่อและนามสกุลหลายครั้งจนปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ดร.กมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม
จากนั้น พล.ต.ท.ฐิติราช บอกว่า ยังพบข้อมูล เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้เผยแพร่วิดีทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติ โดยนางกมนทรรศน์ หรือ กิมเอ็ง ให้สัมภาษณ์เชิงแอบอ้างว่าเคยตามเสด็จฯ และอ้างว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง
อีกทั้งเป็นผู้ปรุงอาหารถวายในสำนักพระราชวัง มีการสร้างภาพลวงทางสังคมหรือสาธารณะเพื่อให้ผู้พบเห็นเชื่อว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับคนชั้นสูง โดยแสดงตนเป็นตัวแทนประกอบพิธีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเฉลิมพระเกียรติ และจัดงานวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำของขวัญและแจกันดอกไม้ แอบอ้างว่าได้รับพระราชทานมามอบให้กับนางกมนทรรศน์
ทั้งที่เป็นการหลอกลวง เพื่อให้บุคคลที่มาร่วมงาน หรือผู้พบเห็นหลงเชื่อ จากนั้นจะชักชวนให้ร่วมทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสต่างๆ โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายคนหลงเชื่อ มอบเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีนางกมนทรรศน์ ขณะนี้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี รวมมูลค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2,979,300 บาท และหลังจากที่ได้รับเงินแล้วนางกมนทรรศน์ ได้นำหนังสือทรงขอบคุณ โดยอ้างว่าเป็นหนังสือที่ออกโดยสำนักพระราชวัง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นหนังสือปลอม
พฤติการณ์ ในการแอบอ้างลักษณะนี้ ไม่ใช่การกระทำครั้งแรกของ หากแต่นางกิมเอ็ง หรือ นางกมนทรรศน์ หรือชื่ออื่นๆ ทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับแต่เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2530 หรือเมื่อเกือบ 30 ปี มาแล้ว ที่เรื่องราวของ นางกิมเอ็งถูกตีแผ่ ปรากฎเป็นข่าวดังหัวไม้ “บนหน้า1 หนังสือพิมพ์มาแล้ว” รวมทั้งหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
ทั้งนี้ ข้อมูลหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ที่นำเสนอเมื่อพฤษภาคม 2530 ระบุว่า นางกิมเอ็ง ถูกจับกุมและถูกฟ้องเป็นจำเลยฐานประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่ามีสิทธิ หลังจากมีการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ที่ยืมมาจากพระราชปัญญาโกศล หรือเจ้าคุณอุดม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ไปร่วมงานราตรีสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล
โดยคดีดังกล่าว “นางไก่” เป็นพยานปากเอกเพื่อดำเนินคดีกับนางกิมเอ็ง สุดท้ายศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี และริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นอกจากนี้
นางไก่ ยังเคยแจ้งความดำเนินคดีกับนางกิมเอ็ง ฐานฉ้อโกงเงิน 3 ล้านบาทด้วย เรื่องดังกล่าวได้ สร้างรอยร้าวลึกให้กับ 2 พี่น้อง
จะว่าไปแล้วทั้งสองคน ถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา แต่ทั้งสองคนก็จะมีพฤติกรรม คล้ายกันมาก ทั้งสองคนมีประวัติ ในการเปลี่ยน ชื่อมากพอๆกัน วนเวียนอยู่สังคมชนชั้นสูง อีกทั้งวิธีการสร้างเครดิตให้กับตัวเองเพื่อปูทางไปยังเป้าหมาย สร้างความน่าเชื่อถือก็คล้ายกัน
สำหรับ นางมณตา หรือ นางไก่ หรือ หญิงไก่ เปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 3 ครั้ง ชื่อเดิม นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล ต่อมาปี 2548 เปลี่ยนชื่อเป็น นางสุชาดา หยกวิริยะกุล ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเป็น นางมณตา หยกรัตนกาญ จนถึงปัจจุบัน
ส่วน นางกิมเอ็ง เคยเปลี่ยนชื่อและนามสกุลหลายครั้ง ชื่อเดิม นางกิมเอ็ง แซ่เตียว เปลี่ยนเป็น นางดวงฤทัย จารุดวงหทัย ในปี 2537 ต่อมาเมื่อปี 2539 เปลี่ยนเป็น นางดวงหทัย จารุดวงหทัย แล้วเปลี่ยนเป็น นางณัฐนันทน์ คำเฉย ในปี 2547 กระทั่งปี 2548 เปลี่ยนเป็น นางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร จนถึงปัจจุบัน
และที่สุดท้าย อาจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือไม่ก็ตาม ตอนนี้ 2 พี่น้อง ได้เข้าไปอยู่ที่เดียวกันอีกครั้ง ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง !!!
