เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณณีที่มีสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นนายกฯต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องตั้งพรรคการเมือง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยพูดเองว่า คนที่จะมาดเป็นนายกฯ ต้องสง่างาม และเป็นไปตามกติการของรัฐธรรมนูญปี 59 โดยต้องดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ เช่น ส.ส.เป็นผู้เลือกและเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ซึ่งกระบวนการก็ต้องเริ่มจากส.ส.ก่อน แต่ละพรรคเสนอชื่อไม่เกิน 3 ชื่อ ถ้าเลือกรอบแรกผ่านก็จบ แต่ถ้าไม่ผ่านก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หรือ สปท. ที่ออกมาเชียร์ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯไปยาวๆ ตนเห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ยาว 8 ปี หรือ 100 ปี ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 59 ซึ่งคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะสถานการณ์การเมืองพลิกได้ตลอดเวลา
“ในรัฐธรรมนูญปี 59 เปิดโอกาสให้คนนอกเป็นนายกฯได้ จึงไม่แน่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจตั้งพรรคการเมือง หรือจะเป็นนายกฯคนนอก ตอนนี้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติด้วยคะแนนค่อนข้างสูง และคำถามพ่วง ที่หลายคนไม่คิดว่าจะผ่านหรือผ่านคะแนนก็ไม่มากอย่างนี้ ประกอบกับ ผบ.ทบ.คนใหม่ ก็ทำให้พลังหรืออำนาจเพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้หลายคนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯคนต่อไป แต่ทุกอย่างก็ต้องไปตามรัฐธรรมนูญ” นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ ยังกล่าวถึง พ.ร.บ.ประกรอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับที่ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว 2 ฉบับว่า พรรคฯก็พร้อมให้ความร่วมมือ เพราะสนช.ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ หรือมาจากอดีตส.ว. ที่ส่วนใหญ่มาจากการสรรหา เมื่อส่วนใหญ่มาจากสรรหา ประสบการณ์ในการเลือกตั้งโดยตรงจึงไม่น่าจะพอต่อการพิจารณา และขณะนี้ ยังเป็นเพียงการยกร่างที่ต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม. )เพื่อเสนอสนช.นำเข้าพิจารณาในวาระแรก จึงคาดว่า น่าจะผ่านไปได้ไม่ยาก จากนั้นเป็นการตั้งคณะกรรมาธิการในวาระ2 เมื่อถึงตอนนี้ พรรคการเมืองก็สามารถเสนอความเห็นได้ และเราก็ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว
