ที่มา | คอลัมน์ สยามประเทศไทย มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
“กรุงสุโขทัย เป็นราชธานีแห่งแรกของไทย”
เป็นหัวใจของประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่ครอบงำกล่อมเกลาสังคมไทยมานานมาก เกือบ 100 ปี
ความเป็นไทยทุกสิ่งทุกอย่างต้องนับหนึ่งเริ่มต้นย้อนกลับไปหากรุงสุโขทัย หรือยุคสุโขทัย เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้พูดสู่สาธารณะว่า “ประเทศไทยมีมานานกว่า 800 ปี” เป็นคำพูดกว้างๆ ตัวเลขกลมๆ ลึกๆ จะหมายถึงประเทศไทยเริ่มต้นตามประเพณีที่กรุงสุโขทัย
ใครทักท้วงถกเถียงจะถูกปรักปรำทำร้ายป้ายสี ว่าเป็นพวกต่างชาติ ไม่รักชาติ ทำลายชาติ ฯลฯ
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ด้วยฝีมือกรมศิลปากร ก็ทำขึ้นจากสำนึกว่ากรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของไทย
สุโขทัย มรดกโลก ก็ด้วยข้ออ้างอย่างหนึ่งว่าเป็นราชธานีแห่งแรกของไทย
นักวิชาการทางประวัติศาสตร์โบราณคดีกรมศิลปากร ถือตนและยกตนว่ารอบรู้หลักฐานมากกว่าและดีกว่าใครในไทยและในโลก เมื่อพบว่าแท้จริงแล้ว “สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย” จึงปลดข้อความนี้ออกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุโขทัย แล้วไม่เขียนใส่ในหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย (เล่มใหม่)
แต่ไม่แถลงข่าวเป็นทางการ ไม่มีเอกสารวิชาการอธิบายให้รู้ทั่วกันทั้งสังคมไทยและทั้งโลก อย่างนี้ไม่ดี ไม่เหมาะ
ช่วงนี้เป็นกาลเทศะเหมาะสมที่สุด (และเหมาะสมนานหลายสิบปีแล้ว) ที่กรมศิลปากรควรบอกความจริงแก่สังคมว่า “สุโขทัย ไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย” และไม่มีอาณาเขตกว้างขวางใหญ่โตถึงแหลมมลายูตามที่เคยเข้าใจ ทั้งนี้เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ถ้าทำนอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น ก็เท่ากับหลอกลวงแล้วให้ร้ายสังคมไทยต่อไปอีกให้หลงผิด เข้าใจผิด แล้วขัดแย้งรุนแรงกับเพื่อนบ้านโดยรอบ เหมือนที่เคยเป็นมานานมาก
นอกจากนั้นก็เท่ากับกรมศิลปากรและกระทรวงวัฒนธรรม สมคบกันหากำไรจากการโฆษณาหลอกลวงให้คนไปเที่ยวราชธานีแห่งแรกของไทย ทั้งๆ รู้เต็มอกว่าไม่จริง