เปิดอภิมหาอาณาจักร “มหานคร” ตึกสูงสุดในไทย 314 เมตร-หรูเฟร่อ (คลิป)

เปิดอภิมหาอาณาจักร "มหานคร" ตึกสูงสุดในไทย 314 เมตร-หรูเฟร่อ

เปิดอภิมหาอาณาจักร “มหานคร” ตึกสูงสุดในไทย 314 เมตร-หรูเฟร่อ

เสร็จสิ้นสมบูรณ์เกือบ 100% แล้ว สำหรับ “มหานคร” อภิมหาอาคารหรูและสูงที่สุดในประเทศไทย บนถนนสาทร กทม. ด้วยความสูงถึง 314.2 เมตร รวม 77 ชั้น ทำลายสถิติเก่าของอาคารใบหยก 2 ที่มีความสูง 304 เมตร

โดยตัวอาคารภายนอกที่ออกแบบเป็นแท่งสูง แต่ไม่ได้ก่อตัวขึ้นไปทื่อๆ เพราะมีลวดลายคล้ายการแกะสลักเป็นแนวริบบิ้นสามมิติ หรือ “พิกเซล” โอบล้อมตัวอาคาร

ในแนวริบบิ้นซึ่งเป็นส่วนของเรสซิเดนซ์นั้นมี Sky Box ที่สามารถมองเห็นวิวได้ 270 องศา สลับกับพื้นที่เทอร์เรซขนาดใหญ่

Advertisement

เป็นลูกเล่นผสมผสานพื้นที่อินดอร์และเอาต์ดอร์ให้มีมุมมองแบบพาโนราม่า

อาคารภายนอกนั้นสมบูรณ์แล้ว 100% เหลือเพียงการตกแต่งภายในเล็กน้อย

บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “PACE” เจ้าของโครงการ จึงเตรียมจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่อลังการเซอร์ไพรส์คนกรุงเทพฯ ด้วยโชว์แสง สี เสียง ตระการตา บนตึกมหานคร ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมการแสดงคอนเสิร์ตจากวงออร์เคสตร้าระดับโลก ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้

Advertisement

ความน่าสนใจของโครงการมหานคร ไม่เพียงเป็นตึกสูงที่สุดของไทย และบริหารพื้นที่แบบมิกซ์ยูส (Mixed-use) หรือรวมหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ทั้งส่วนที่พักอาศัย โรงแรมระดับหรู ไลฟ์สไตล์รีเทล รวมถึงร้านอาหารชื่อดังระดับโลก ฯลฯ

หากยังอยู่ที่ผู้บริหารโครงการ คือ “สรพจน์ เตชะไกรศรี” ยังบลัดของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเพซ ซึ่งมีวัยไม่ถึง 40 ปี

แม้อายุถือว่าไม่มาก แต่กลับมาทำโครงการระดับหลายหมื่นล้าน เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานมายาวนานกับธุรกิจครอบครัว คือ บริษัท แอลพีเอ็น จำกัด (มหาชน) เจ้าของคอนโดฯ แบรนด์ “ลุมพินี” นั่นเอง

โดยก่อนจะมาจับโครงการมหานคร กลุ่มเพซเน้นตลาดที่อยู่อาศัยแบบไฮเอนด์ล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็น “ไฟคัส เลน” คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สไตล์รีสอร์ตแห่งแรกในกรุงเทพฯ ระหว่างถนนพระรามสี่และซอยสุขุมวิท 44/1

“ศาลาแดง เรสซิเดนเซส” และ “นิมิต หลังสวน” อภิมหาคอนโดฯ หรู ราคา 25-250 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีโครงการ “มหาสมุทร” วิลล่าตากอากาศ และคลับริมชายหาดหรูหรา

และล่าสุดคือโครงการ “มหานคร” ตึกสูงที่สุดในประเทศนั่นเอง

“ผมตั้งใจที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการสร้างสัญลักษณ์สำคัญให้กรุงเทพฯ ทัดเทียมเมืองหลวงต่างๆ ของโลก โดยใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัท ในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ เพื่อสร้างอาคารสูงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ที่พร้อมเป็นแลนด์มาร์กให้ทั้งกรุงเทพฯ และประเทศไทย”

สรพจน์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่เนรมิตโครงการมหานครขึ้นมา

เนื่องจากพบว่าเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกที่มีชื่อเสียง ล้วนแต่มีอาคารที่เป็น “แลนด์มาร์ก” ทั้งสิ้น อาทิ ตึกเอ็มไพร์สเตต นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา, ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ตึกแฝดปิโตรนาส ของมาเลเซีย หรือ ตึกไทเป 101 ของไต้หวัน

อาคารมหานคร ที่มีความสูง 314.02 เมตร ถูกบันทึกว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รับรองโดยสภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH)

และเชื่อว่าจะเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทย ที่ช่วยสร้างสีสันและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นอกจากนี้ อาคารดังกล่าวยังได้รับรางวัลจากหลากหลายสถาบัน อาทิ Thailand Property Awards, South East Asia Property Awards และ Asia-Pacific Property Awards เป็นต้น

ด้วยความสูงขนาดนี้ทำให้ต้องติดตั้งลิฟต์แบบพิเศษ สามารถขึ้น-ลงได้ด้วยความเร็วถึง 8 เมตร/วินาที สามารถขึ้นสู่จุดชมวิวชั้นบนสุดในเวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ยังแยกส่วนการใช้งานของลิฟต์ ทั้งที่พักอาศัย โรงแรม ฯลฯ

ไฮไลต์ของอาคารมหานครมี 5 ส่วนหลักๆ

เริ่มจาก “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก” ที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ จำนวน 209 เรสซิเดนซ์ ทุกเรสซิเดนซ์เน้นผนังกระจก สร้างบรรยากาศราวกับลอยอยู่บนฟ้า พร้อมบริการระดับ 5 ดาว ราคาเฉลี่ย 350,000 บาท ต่อ ตร.ม. โดยราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นที่ 62.5 ล้านบาท ถึง 235.5 ล้านบาท

จริงๆ แล้วราคาขายแพงกว่านี้ แต่ห้องราคาแพงถูกจับจองไปเรียบร้อย

ถัดมาคือบูติกโฮเต็ล “บางกอกเอดิชั่น” บริหารโดย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน จำนวนกว่า 150 ห้อง แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล โดยอาคารมหานคร กรุงเทพฯ เป็นเมืองลำดับที่ 6 ของแบรนด์เอดิชั่น ที่เข้ามาบริหารหลังประสบความสำเร็จมาแล้วจากหลายเมืองใหญ่ เช่น ลอนดอน ไมอามี่ และนิวยอร์ก

จุดเด่นนอกจากที่พักสุดหรูและบริการระดับ 6 ดาวแล้ว ยังมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน รวมถึงซิกเนเจอร์บาร์ที่ชั้นบนสุดของอาคาร

ไฮไลต์ต่อมาและน่าจะเป็นจุดขายที่สุดคือ “จุดชมวิว 360 องศา” บนชั้น 77 ให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าชมทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ แบบพาโนราม่า 360 องศา แถมมีพื้นทำจากกระจกใส (Sky Tray) ยื่นออกจากตัวอาคาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ยืนรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนฟ้า

“มหานคร คิวบ์” ไลฟ์สไตล์รีเทล 7 ชั้น ที่รวบรวมร้านอาหารชั้นนำ อาทิ “ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง กรุงเทพฯ” ร้านอาหารโดยเชฟมิชลินสตาร์ ซึ่งได้รับ “ดาว” มากที่สุดในโลก

“โว้ก เลาจน์” ร้านอาหารในเครือกอง เด้ นาสต์ เรสเตอรองต์แห่งแรกในไทย

“ดีน แอนด์ เดลูก้า” แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ระดับไอคอนของนิวยอร์ก

“เอ็ม คลับ” ร้านอาหารจีนโดยเชฟแมน และ “โมริโมโตะ” ร้านอาหารญี่ปุ่นโดยเชฟกระทะเหล็กชื่อดัง

ในส่วนอื่นๆ ยังมี “เวริทา เฮลท์” คลินิกพิเศษเพื่อการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะบุคคล

“ดิจิตอล เวนเจอร์ส” ธุรกิจน้องใหม่ ให้บริการด้านการให้คำปรึกษา แนะนำ วางแผน และพัฒนาด้านสื่อการตลาดออนไลน์เพื่อธุรกิจสตาร์ตอัพ ฯลฯ

สุดท้ายของไฮไลต์ คือ “มหานคร สแควร์” ลานอเนกประสงค์ บริเวณด้านหน้าโครงการ พื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ออกแบบให้เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับจัดกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เช่น งานโชว์ศิลปะ คอนเสิร์ต และการแสดงโชว์ทางวัฒนธรรม

พื้นที่ในส่วนของ “มหานคร คิวบ์” เปิดให้บริการแล้ว แต่ส่วนอื่นๆ จะแล้วเสร็จปีหน้า

โดยเฉพาะไฮไลต์หลักคือ “จุดชมวิวพื้นกระจก” คงดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ไปเยือนอาคารสูงที่สุดของเมืองไทยแห่งนี้

โปรดอดใจรอ!

คืนนี้ ติดตามชมไลฟ์สดงานเปิดตัวตึก “มหานคร” ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก matichononline

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image