จากกรณีที่ทางตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม (ชื่อเดิมนางกิมเอ็ง แซ่เตียว) อายุ 62 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม หลังมีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ว่าผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงคล้ายนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ โดยทั้งคู่เป็นพี่น้องต่างมารดา ได้แอบอ้างผ่านรายการสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง มีการเผยแพร่วีดิทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติ โดยนางกมนทรรศน์ให้สัมภาษณ์เชิงกล่าวอ้างว่าเคยตามเสด็จ และอ้างว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง อีกทั้งเป็นผู้ปรุงอาหารถวายในสำนักพระราชวัง มีการสร้างภาพทางสังคมหรือสาธารณะเพื่อให้ผู้พบเห็นเชื่อว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับคนชั้นสูง จากนั้นจะชักชวนให้ร่วมทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสต่างๆ โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายคนหลงเชื่อมอบเงินสด หรือโอนเข้าบัญชีนางกมนทรรศน์
ขณะนี้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี รวมมูลค่าเสียหาย 2,979,300 บาท และหลังจากที่ได้รับเงินแล้วนางกมนทรรศน์ได้แอบอ้างนำหนังสือทรงขอบใจ อ้างว่าเป็นหนังสือที่ออกโดยสำนักพระราชวัง อีกทั้งพบว่านางกมนทรรศน์เป็นบุคคลเดียวกับนางกิมเอ็ง อดีตผู้ต้องหา คดีหลอกลวงผู้อื่นให้บริจาคเงิน โดยอ้างว่าสามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และถูกศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิพากษาจำคุก 6 ปี ต่อมาพ้นโทษจึงเปลี่ยนชื่อนามสกุลหลายครั้ง จนปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ดร.กมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก่อนนำตัวฝากขัง เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายนนี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. กล่าวว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. มอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง มีข้อมูลว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นนางกิมเอ็งและนางไก่ แม้ความสัมพันธ์จะเป็นพี่น้อง แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและในทางคดีไม่พบว่าการกระทำผิดของบุคคลทั้งสองเกี่ยวข้องกัน แต่เป็นลักษณะต่างคนต่างกระทำผิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความกล่าวโทษนางกิมเอ็ง 3 ราย ได้ให้คณะพนักงานสอบสวนสอบปากคำอย่างละเอียด
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายเข้ามาแจ้งความเพิ่ม ส่วนที่ปรากฏภาพข่าวว่ามีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ระดับ พล.ต. และ พ.อ. รวมถึงบริษัทเอกชนอยู่ในงานกิจกรรมต่างๆ นั้น เบื้องต้น พล.ต.ท.ฐิติราชสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่ามีเจตนาร่วมกระทำผิดหรือไม่ หรืออาจถูกนางกิมเอ็งหลอกให้เชื่อ โดยต้องเรียกเจ้าของ หจก.ภักดีชนก จำกัด บริษัทผลิตวีดิทัศน์ รวมทั้งบุคคลที่ปรากฏในภาพมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง ทาง ผบช.ก.เน้นย้ำให้ทำสำนวนคดีให้รอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบผู้ใดกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ในส่วนของนายทหารระดับสูงนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญตัวมาสอบปากคำ และยังไม่ได้รับการประสานเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งรัดตรวจสอบอยู่แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่ระบุพฤติการณ์ของนางกิมเอ็งว่า มักมีแอบอ้างสถาบันอ้างว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง รวมทั้งมีการสร้างภาพทางสังคมหรือสาธารณะเพื่อให้ผู้พบเห็นเชื่อว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับคนชั้นสูง จากนั้นจะชักชวนให้ร่วมทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสต่างๆ โดยมีผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อมอบเงินสดให้ โดยผู้เสียหายรายหนึ่งให้การว่า รู้จักกับนางกิมเอ็งขณะไปทำบุญที่สำนักสงฆ์โพธิสัตว์ บรรพตนิมิตร ตำบลและอำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี จากนั้นถูกนางกิมเอ็งชักชวนไปทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสต่างๆ ทั้งนี้ยังปรากฏข้อมูลอีกว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา นางกิมเอ็งจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียริตถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีการปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น ที่สำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก ต.ตะนาวศรีและ อ.สวนผึ้ง ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมาย
รายงานแจ้งอีกว่าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลการกระทำความผิดของนางกิมเอ็ง เบื้องต้นพบว่ามีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงในการเรียกรับผลประโยชน์ ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน อยู่ระหว่างการพิจารณาประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก่อนเสนอต่อทาง ตร. โดยขณะนี้พบว่านางกิมเอ็งกระทำผิดเพียงคนเดียว ในส่วนหนังสือทรงขอบใจที่นางกิมเอ็งอ้างว่าเป็นหนังสือที่ออกโดยสำนักพระราชวังนั้น จากการตรวจสอบกับทางสำนักพระราชวังพบว่าเป็นหนังสือที่ปลอมขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 30 สิงหาคม เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.สมหมาย ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อวางแนวทางการทำงาน พร้อมติดตามความคืบหน้าคดี ที่ บก.ป.
