เตือนกิน ‘คางคก-แมงมุม-แมงป่อง’ อันตรายสัตว์มีพิษ อย่าบริโภคเด็ดขาด

จากกรณีที่มีผู้ป่วยจำนวน 5 ราย มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว จุกแน่นท้อง เสียชีวิต 2 ราย สาเหตุคาดว่าเกิดจากการรับประทานคางคกปิ้งร่วมกับไก่ปิ้ง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลและอ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ล่าสุดผู้ป่วยทั้ง 3 รายที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทุ่งช้าง อาการปลอดภัย

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงการกรณีที่ประชาชนกินคางคกแล้วเสียชีวิต ว่า คางคกเป็นสัตว์ที่มีพิษหากประชาชนนำมารับประทานจะทำให้ได้รับพิษปนเปื้อน มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และรุนแรงต่อระบบหายใจ ทำให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โดยผู้ที่เสียชีวิตเพราะได้รับพิษเข้าไปในปริมาณมาก โดยคางคกจะมีต่อมพิษอยู่ใกล้คอเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกทำร้าย หากรับประทานคางคกเข้าไปแล้วไม่สบาย คลื่นไส้ อาเจียน ถ้ายังมีสติจะต้องทำให้อาเจียนสิ่งที่รับประทานเข้าไปออกมาก แต่ถ้าหมดสติให้รีบนำส่งแพทย์พร้อมกับบอกด้วยว่ารับประทานอะไรเข้าไป

“ทางที่ดีที่สุด คือ อย่ารับประทานคางคกโดยเด็ดขาด เช่นเดียวกับแมงป่องและแมงมุม ยิ่งการกินคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยิ่งไม่ควร เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซับสารพิษเข้ากระแสเลือดได้เร็วขึ้น กรณีที่มีการกินเนื้อไก่ที่ปิ้งในตะแกรงเดียวกับที่ปิ้งคางคกแล้วมีอาการป่วยอาจเป็นเพราะมีพิษปนเปื้อนอยู่ในตะแกรง ไม่มีวิธีการกินให้ปลอดภัย อย่าเสี่ยงดีกว่า “นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า พิษจากสัตว์บางตัวไม่มียาต้านพิษ บางตัวมียาต้านพิษแต่พิษค่อนข้างเร็ว และไม่ได้มียาต้านพิษสำรองไว้ในโรงพยาบาลทุกแห่งเพราะยามีราคาค่อนข้างแพง จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรอ กว่าที่ยาต้านพิษจะส่งไปถึงโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ซึ่งพิษจากคางคก ไม่มียาต้านพิษโดยตรง และพิษจากคางคกจะเป็นอันตรายต่อระบบหัวใจทำให้พิษเกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างรวดเร็วและรักษายาก เพราะจะมีอาการรุนแรง เช่น เดียวกับพิษจากแมงกะพรุนกล่อง ที่จะออกฤทธิ์เป็นอันตรายต่อร่างกายภายใน 30 นาที ที่ผ่านมา พบผู้ได้รับพิษจากคางคกไม่มากปีละ 2-3 ราย แต่พิษจากสัตว์ที่พบผู้ป่วยบ่อยคือพิษจากปลาปักเป้า ปีละ 10 รายและพิษจากแมงกะพรุนที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้น ส่วนพิษจากพืชที่พบบ่อย คือ เห็ดพิษมีผู้ได้รับอันตรายปีละหลายร้อยราย และสบู่ดำที่นักเรียนมักนำมารับประทานจนได้รับอันตราย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image