ประยุทธ์ ลั่นต้องปฎิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ย้ำต้องให้ได้คนดีเข้าสู่วงการเมือง

“นายกฯ” ลั่นต้องปฏิรูปการเมืองให้สำเร็จก่อนเลือกตั้ง ชี้เจนเนอเรชั่นใหม่ขยาดไม่อยากประวัติเสียหาย

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 30 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงแนวทางการปฏิรูปนักการเมืองและพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชนไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจนายทุนพรรคว่า มีหลายอย่างขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำกฎหมายปฏิรูปพรรคการเมือง โดยฝ่ายกฎหมายสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) –สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) – คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ต้องพูดคุยกันอยู่ว่าพรรคการเมืองจะทำอย่างไร ทั้งนี้ต้องยึดโยงกับกับคำว่าประชาธิปไตยสากล แต่ของเรามันหลุดจากกรอบไปเยอะ สิ่งสำคัญเราจะทำอย่างไรจะได้คนดีเข้ามาสู่ระบบการเมือง จะไปออกระเบียบอะไรมันก็ไม่ได้อีกถ้าคนไม่ดี ดังนั้นต้อง มีระบบคัดกรองที่ดี วันนี้รัฐธรรมนูญร่างมาเพื่อให้คนที่ไม่มีปัญหาเข้ามาก็ยังโดนต่อต้านเยอะแยะไปหมด

“เรื่องนายทุนอะไรต่างๆนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการเป็นพรรคการเมืองนักการเมืองต้องใช้เงินอะไรมากน้อยไหน เพราะวันนี้ผมก็ไม่ได้ใช้เงินเหล่านนั้นเลยที่จะทำให้คนต้องมารักผม แต่เขาอาจจำเป็นหรือไม่ในการที่ต้องใช้เงินของส.ส.ไปดูและประชาชนที่เขาบอกว่าต้องมีแล้วมาจากไหน อย่างวันนี้นักธุรกิจใหญ่ๆมันก็ต้องอยู่ในประเทศไทยก็ร่วมมือกับผมดีในการทำงาน และไม่เห็นต้องเสียสตางค์ให้ผมสักคน ไม่ต้องบำรุงพรรคผม ผมต้องไปดูกฎหมายการบำรุงพรรคอะไรทำนองนี้ เขาดูหมดทั้งบุคคลการเข้าสู่การเมือง ดูไปถึงบทลงโทษกำลังพิจารณากันอยู่ การปฏิรูปการเมืองอยู่ประเด็นที่ต้องทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง อย่างน้อยเป็นกติกาที่จะทำให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในการเมือง” นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่า แล้วกฎหมายที่จะออกมาจะสามารถดึงคนที่ดีๆหรือนักการเมืองสายเลือดใหม่เข้ามาได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “มีใครไหมล่ะไปหามาซิ ที่ผมเป็นรัฐบาลมา 2 ปี หาคนใหม่ๆเข้ามาไม่มีใครเข้ามากับผมสักคน อาจจะไม่เฉพาะกลัวว่าเป็นรัฐบาลรัฐประหารหรอก แต่เขาไม่อยากให้ประวัติมาเสียหายกับการที่ไปเป็นคนสาธารณะ ซึ่งบางเรื่องมันก็ก้าวล่วงชีวิตส่วนตัวเขามากเกินไป เป็นปัญหาสำคัญของนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ไม่เข้ามา เรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินเขาไม่ตั้งใจจะโกง ทรัพย์สินเขามีอยู่แล้วแต่ต้องมาตีแผ่ให้คนสงสัยเขาก็รับไม่ได้ถึงไม่อยากเข้ามา แต่เข้ามาอย่างไรก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน บางอันเป็นกรรมการทางธุรกิจนี่โน่นต้องยกเลิกหมดเลยเพราะมันผลประโยชน์ทับซ้อนแล้วต้องมารับเงินเดือนนิดหน่อย เขาไม่อยากมาหรอก คือเขาไม่อยากมีประวัติใหม่ ไม่ต้องการจะโกงแล้วต้องมาถูกตีแผ่ และการบริหารเชิงรุกของเขามันทำไม่ได้นั่นแหละมันติดขัดที่คนรุ่นใหม่ไม่กล้าเข้ามาหรอก คนรุ่นใหม่เขาตั้งใจดี ที่ผมขับเคลื่อนอยู่ก็ได้ความคิดจากคนเหล่านี้แหละ แต่ถามว่ามาเป็นไหมไม่เป็นหรอก ถามว่าส.ส.ไหมไม่สมัคร เขาก็ไม่ชอบไม่มีใครชอบหรอก ผมก็ไม่ชอบ แต่ผมจำเป็นต้องทำตอนนี้แค่นั้น ผมขอให้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีไม่มีใครเข้ามาสักคน”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image