คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต เผยปั๊มหัวใจจนตับแตก พบน้อยร้อยละ 0.1

พ.ต.อ.นพ.โสภณ กฤษณะรังสรรค์

เมื่อวันที่ 1กันยายน ที่โรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.อ.นพ.โสภณ กฤษณะรังสรรค์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย กล่าวถึงมาตรการกู้ชีวิตว่า ตามปกติไม่ค่อยพบการเสียชีวิต ตับแตกจากการปั๊มหัวใจกู้ชีพ โดยหากพบก็น้อยกว่าร้อยละ 1 การปั๊มหัวใจด้วยการกดกลางหน้าอก เริ่มมีในปี 2502 ที่ จอห์นออฟกิ๊นส์ สหรัฐอเมริกา การปั๊มหัวใจกู้ชีพ ต้องมีทักษะที่แตกต่าง ซึ่งปัจจุบันมีการอบรมในหน่วยกู้ชีพกู้ภัยครบทั้งหมดแล้ว โดยทักษะที่จะถูกสอน ผู้ใหญ่จะใช้สองมือปั้มหัวใจกลางอก เด็ก 12 ปี ใช้มือเดียวในการปั้มหัวใจ เด็กเล็กใช้ 2 นิ้ว ปั๊มหัวใจกลางอก ใช้น้ำหนักตัวกดในการปั้ม ไม่ผ่อนแรงน้ำหนักของผู้ที่จะกู้ชีพ ทำ 30 ครั้ง ติดต่อกัน 18 วินาที ทั้งนี้การพบตับแตก จะเกิดขึ้นต้องสอดคล้องกับซี่โครงหักด้วย จะมาซี่โครงหักอย่างเดียวไม่ได้ และหากมีโรคประจำตัว ทั้งตับโต ไขมันพอกตับก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกู้ชีพ และในกรณีที่ผู้ต้องการความช่วยเหลือด้วยการกู้ชีพ จากการผูกคอตายนั้น ต้องช่วยเหลือภายใน 4 นาที เพราะมิเช่นนั้น ก็จะสมองตาย

“การช่วยชีวิต ต้องเข้าใจว่าทำด้วยความหวังดี มีเจตนาในการช่วยเหลือผู้อื่น และแม้ไม่ช่วยผู้ที่ประสบเหตุก็มีโอกาสเสียชีวิต การช่วยเหลือส่วนใหญ่จะทำกันอย่างเต็มที และจะพยายามมากที่สุด โดยจะทำกันเป็นทีม สำหรับการจะทราบว่าตับแตกจากการกู้ชีพหรือไม่ ต้องรอให้แพทย์นิติเวช เป็นผู้ชันสูตร โดยสามารถดูได้ จากรอยแตกหรือกลีบของตับ ว่าเฉียงไปในทิศทางใด เพราะการปั้มหัวใจ ไม่มีทางที่ซี่โครงจะไปกระแทกตับอย่างแน่อนอน”พ.ต.อ.นพ.โสภณกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image