นายกฯ เป็นประธานรับฟังแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหารระยะ 20 ปี ยอมรับรู้ปัญหาแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ระบุต้องวางกรอบเพื่อให้รัฐบาลเลือกตั้งสานต่อ แต่บังคับไม่ได้ทั้งหมด บอกไม่ได้ให้อำนาจทั้งหมดกับส.ว. เพียงมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำงานรัฐ ชี้กลไกรัฐสภาทำหน้าที่
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 กันยายน ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหารระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 จัดโดยนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 58 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 57 วิทยาลัยการทัพยก ชุดที่ 61 วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 48 และวิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ 50 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ เข้าร่วมพิธี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนภูมิใจที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคต รัฐบาลนี้มีคนทำงาน ทั้งจากทหาร และพลเรือน มาทำงานร่วมกัน ดีใจที่การแถลงยุทธศาสตร์ชาติวันนี้ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล วันนี้ขอพูดในนามนายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และอดีตทหาร ทั้งหมดที่ผ่านมาถือว่าดีแล้ว แต่ปัญหาคือทำอย่างไรให้เดินหน้าต่อไปได้ ยุทธศาสตร์เขียนดีแต่ทำไม่ได้ หรือทำได้น้อยเกินไป และต้องขอบคุณที่ทุกคนช่วยกันคิด และทำออกมา แต่สิ่งสำคัญวันนี้ต้องมาช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารงานตั้งแต่ปี 2557-2558 ซึ่งนอกจากการมองอนาคตแล้วจะต้องย้อนกลับไปมองประวัติศาสตร์ด้วย ว่าก่อนปี 2557 เกิดอะไรขึ้น นั้นคือจุดเริ่มต้น และตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาล และคสช. ทำอะไรไปบ้าง ทั้งปัญหาจุดบกพร่อง และการแก้ไข ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำในช่วงที่ 2 จากนั้นก็เป็นเรื่องของ 20 ปีข้างหน้า ซึ่งทุกคนคาดหวังว่าหลังจากปี 2560 ประเทศจะมีคนรุ่นใหม่ที่เจริญเติบโตจบในระดับชั้นมหาวิทยาลัย และทำอย่างไรที่เราจะมีคนรุ่นใหม่ ในอีก 20 ปีข้างหน้าที่จะไม่เจอกับปัญหาเดิม ๆ อีก ไม่ต้องกลับมาแถลงยุทธศาสตร์ชาติแบบนี้ แต่เป็นการก้าวไปถึงดาวอังคาร หรือนอกโลกแล้ว
“ปัญหาทุกปัญหาในวันนี้ที่ต้องแคะ แกะ เกา มันสั่งสมมานาน ผมโทษใครไม่ได้ เพราะถ้าพูดออกไปก็จะมีผลกระทบกลับมา วันนี้ผมขอเวลาทำงาน สิ่งที่ผมทำและพูดในวันนี้ล้วนเป็นปัญหาเก่าทั้งสิ้น จึงไม่สามารถทำงานในปัจจุบัน และอนาคตได้มากนัก แต่ก็ต้องทำ และวางรากฐานให้ได้มากที่สุด ในระหว่างปี 2559-2560 และต่อจากนั้นก็จะอยู่ในแผนของสภาพัฒน์ฯ และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล มีกลไกในการขับเคลื่อน โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีกฎหมาย และงบประมาณ แต่จะไปทาบทับกับการบริหารไม่ได้มากนัก เพราะเป็นกระบวนการประชาธิปไตย เป็นเรื่องของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สามารถตีกรอบให้เกิดความชัดเจนได้ ที่รัฐบาลเข้ามาวันนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาเหตุที่มันติดขัด ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาทางการเมือง รวมทั้งความล่าช้าในการพัฒนาประเทศ วันนี้เราจำเป็นต้องเร่งการทำงานให้เกิดความเป็นเอกภาพ และการบูรณาการโดยเร่งการขับเคลื่อน 6 กลุ่มงานของรัฐบาล ซึ่งไม่ง่ายนักเพราะยังมีเรื่องของความขัดแย้ง ผมก็ต้องต่อสู้เพื่อให้การทำงานเดินต่อไปได้ ขอร้องอย่าเพิ่งเบื่อในสิ่งที่ผมพูด รัฐบาลทำงานแบบไม่มีวันหยุด เพราะปัญหามีเป็นร้อยเรากำลังทำยุทธศาสตร์การเดินหน้าในการปฏิรูป และวางรากฐาน 20 ปี และเตรียมการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล จะทำอย่างไรให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำงานได้ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แต่ไม่ใช่การบังคับทุกเรื่อง เพราะในการบริหารทำไม่ได้ แต่ต้องใช้กลไกของรัฐสภาหากทำไม่ได้ก็ต้องไปชี้แจง และใช้กลไกการตัดสินของ 2 สภา แล้วนำไปสู่ศาล ผมต้องการแบบนี้ ไม่ได้ต้องการเอาอำนาจไปอยู่ที่ส.ว. เพียงแต่ให้มีสิทธิ์พิจารณาการทำงานของรัฐบาลบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยที่พูดมาทั้งหมด ทุกคนรู้ดี อะไรคือปัญหา อะไรคือสาเหตุ แต่ ไม่สามารถแสวงหาความร่วมมือได้มากนัก ความมีเอกภาพ การดำเนินการ ความคิดเห็นมีความแตกต่าง ในอดีตมีความขัดแย้งสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านการเมือง ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม เศรษฐกิจไม่เข้มแข็ง ถือเป็นความล่าช้าของประเทศจึงทำให้มีปัญหามากมายขณะนี้ การทำงานของรัฐบาลจึงมีข้อขัดแย้งมาโดยตลอด ไม่ซ้าย ก็ขวา เป็นกลาง ๆ ไม่ค่อยมี ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้มันเดินไม่ได้ ต้องปรับแนวคิดกันใหม่ เพราะประเทศ และคนของเรามักใช้ความรู้สึกในการตัดสิน ซึ่งใช้ไม่ได้ จะต้องมีหลักการและเหตุผล ซึ่งต้องสร้างมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งกระทรวงศึกษากำลังแก้ไขอยู่ อย่างคิดแต่ต้นทาง และปลายทาง แต่ตรงการหาความร่วมกันไม่ได้ ความคิดที่แตกต่างทั้งหมดไม่มีใครทำได้ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ตาม วันนี้เรามีแม่น้ำ 5 สาย ในการทำงาน ก็ต้องขอขอบคุณที่พยายามทำทุกอย่างให้สามารถเดินบนถนนเส้นเดียวกันได้ เป็นแม่น้ำสายเดียวกัน ไม่ใช่เป็นแม่น้ำ 5 สายตลอด ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ ซึ่งเราต้องเร่งสร้างความเข้าใจ แม้หลายฝ่ายจะไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าทุกอย่างทหารเป็นคนคิด ทั้งที่ความจริงพลเรือนก็ช่วยกันคิด เราจึงต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่าง ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร เราคือคนไทยต้องร่วมมือกัน ทำและคิดแบบนี้
