คืบหน้ากรณีพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยการเสียชีวิตของ นายฉวี อินทระ เจ้าหน้าที่ยุติธรรม จังหวัดพังงา 1ในคณะทำงานตรวจสอบคดีของ นายธวัชชัย อนุกูล พนักงานกรมที่ดินจังหวัดพังงา ผู้ต้องหาคดีทุจริตออกโฉดทีดิน ใน.จังหวัดภูเก็ต และพังงามูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งเสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่พบศพถูกคนร้ายฆาตกรรมยัดถัง โบกปูน ทิ้งคลองบางจาก หรือ คลองชะเมา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในห้วงเวลาเดียวกันว่า จากการสืบสวนทราบกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เบื้องต้นมีอย่างน้อย 5 ราย ซึ่งรู้ตัวหมดแล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ เบื้องต้นพบว่าพฤติกรรมของคนร้ายมีความโหดเหี้ยมและโกรธแค้นผู้ตายอย่างมาก ส่วนจะเป็นลักษณะล่อลวงเหยื่อออกมารุมทำร้ายจนเสียชีวิตก่อนอำพรางคดีด้วยนำ ไปโบกปูน ยัดหรือก่อนทิ้งน้ำหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสืบสวน โดยเชื่อว่ามีพยานหลักฐานเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องชู้สาว และมั่นใจว่าจะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ก.ย. มีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สามารถจับภาพขณะที่นายฉวีขณะที่ไปพบกับ น.ส.ณัฐนันท์ อินทร์ดำ หรือเร ที่บริเวณศาลาริมน้ำติดกับแม่น้ำเชียรใหญ่หน้าที่ว่าการอำเภอ โดยนายฉวี ผู้ตายขับรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ไปจอดที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเชียรใหญ่ จากนั้นลงจากรถแล้วเดินเข้าไปที่ศาลาริมน้ำ ก่อนนายวีระเดช แปะดำ ที่ถูกจับกุมไปแล้วขับรถจักรยานยนตไปส่ง น.ส.ณัฐนันท์หลังลงจากรถ น.ส.ณัฐนันท์ก็เข้าไปพูดคุยกับนายฉวีแล้วทั้ง 2 ก็พากันเดินไปขึ้นรถกระบะคันดังกล่าว โดยมีนายวีระเดช ขับรถตามหลัง
การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นพบว่า เป็นช่วงเวลาประมาณช่วงบ่ายของวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าหลังจากนายฉวีกับน.ส.ณัฐนันท์ ขับรถออกไปแล้วน่าจะมุ่งหน้าไปยังบ้านเลขที่ 34 ม.2 ต.ท่าขนาน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุคนร้ายทั้ง 5 คนรุมทุบตีนายฉวีจนเสียชีวิต ก่อนจะมีการนำศพยัดใส่ถังขนาด 200 ลิตร แล้วโบกปูนนำไปทิ้งคลองบางจาก ที่ ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง
ล่าสุดในวันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5ป.บก.ป.นำกำลังตำรวจกองปราบปรามเดินทางไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเลขที่ 34 ม.2 ต.ท่าขนาน อ.เชียรใหญ่ เพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม และพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งค้ายาเสพติด และเป็นที่มั่วสุมยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ่นและผู้ค้า ซึ่งคาดว่าน่าจะได้หลักฐานเพิ่มเติม ในการมัดตัวคนร้ายที่กำลังหลบหนีอยู่
สำหรับสาเหตุที่ตำรวจสอบปากคำคนร้ายที่จับกุมให้การกับตำรวจว่า นายอดิศักดิ์ ทองสมจา 1 ใน 5 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับซึ่งเป็นหัวโจกแค้นนายฉวี หลังจากจับได้ว่าน.ส.ณัฐนันท์ฯ แฟนสาวคุยทางเฟซบุ๊กกัน จึงวางแผนบังคับให้ น.ส.ณัฐนันท์โทรศัพท์ล่อลวงให้นายฉวี มาพบที่บ้านหลังดังกล่าว โดยนายอดิศักดิ์ชักชวนผู้ก่อเหตุให้มาร่วมเสพยาเสพติดย้อมใจก่อนที่นายฉวีจะ เดินทางมาถึง
เมื่อนายฉวีมาถึงก็ถูกจับใส่กุญแจมือ ใช้เชือกมัดมือมัดเท้าแล้วใช้ท่อนไม้ทุบตีศีรษะ ซึ่งผู้ต้องหาบางคนไม่กล้าทุบตีนายฉวี แต่ถูกนายอดิศักดิ์ใช้ปืนจี้บังคับจึงยอมทำตาม และในช่วงดึกของวันที่ 20 ส.ค.59 นายอดิศักดิ์จึงลงมือทุบตีนายฉวีจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปยัดถังน้ำโบกปูนทับ ก่อนจะนำไปทิ้งแล้วแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายอดิศักดิ์ขับรถยนต์ของนายฉวี หลบหนีไปกับน.ส.ณัฐนันท์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทาง พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบกภ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาให้ได้ โดยเร็ว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน และทางผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ เนื่องจากนายฉวีเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถูกทำร้ายเสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย จับแล้ว 2 คน และจะติดตามคนที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
