“ประวิตร” เผย เลขาฯศอ.บต. คนใหม่ต้องเป็นพลเรือน ย้ำไม่ใช่ทหาร ชี้ เหตุบึ้ม 7 จังหวัด คืบหน้ามาก ระบุ เร่งตรวจสอบ พร้อมดำเนินการส่งนักโทษมาเลย์ กับประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 กันยายน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งแทนนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ ว่า เป็นใครก็ได้แต่คนที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนต้องมีความรู้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร อีกทั้งต้องสามารถทำงานต่อจากงานเดิมได้ ทั้งนี้ตนมีบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวอยู่ในใจแล้ว ซึ่งจะเป็นใครก็ได้แต่ต้องเป็นพลเรือน เพราะทหารเป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค4 (กอ.รมน.ภาค4) อยู่แล้ว ส่วนการปรับโครงสร้างศอ.บต.นั้น ตนจะเป็นคนปรับโครงสร้างเอง เพราะจะมีคณะที่จะลงพื้นที่ในฐานะตัวแทนรัฐบาลเพื่อประสานงาน โดยจะลงไปในช่วงปีงบประมาณใหม่ ซึ่งหัวหน้าคณะชุดนี้จะเป็นใครนั้น ขอไม่บอก แต่มีตนอยู่คนแล้วจะไม่มั่นใจได้อย่างไร
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวที่จะมีนายทหารเกษียณอายุราชการลงไปปฎิบัติหน้าที่นั้น ไม่ต้องมาถามตน ถ้าถามอีกก็จะไม่บอก พร้อมทั้งขอย้ำว่าไม่ใช่พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบกแต่อย่างใด
พล.อ.ประวิตร ล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามมาตัวคนร้ายลอบวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ว่า ขณะนี้มีการออกหมายจับ และรู้ตัวคนร้ายหลายคนแล้ว ซึ่งอยู่ในหลายพื้นที่ ส่วนสาเหตุการลอบวางระเบิดนั้น ตนมั่นใจว่าไม่ใช่การขยายผลพื้นที่ความรุนแรงจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.)
พล.อ.ประวิตร ยัง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย ขอให้ทางการไทยส่งตัวนักโทษมาเลเซีย 10 คน คดีค้าโรฮิงญาส่งกลับมาเลเซีย ว่า เรากำลังดำเนินการอยู่ ส่วนที่ทางการมาเลเซียระบุว่าหนึ่งในนักโทษทั้ง 10 คนนั้นมีคนไทยรวมอยู่ด้วย เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้รับรายงาน ขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ถ้าส่งตัวได้ก็จะดำเนินการทันที
เมื่อถามว่าในวันที่ 9กันยายน ที่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางมาไทยเพื่อหารือในเรื่องการลงนามสองสัญชาติแล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รายงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปทั้งหมดแล้ว เพราะเป็นเรื่องระหว่างนายกกับนายก ซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องประสานงานกัน
