พาณิชย์ชู6กลยุทธ์ดันเป้าส่งออกปี’60ขยายตัว3%

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการประชุมและมอบนโยบายผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ (ผอ.สคต.) หรือทูตพาณิชย์ จาก 58 แห่งทั่วโลกเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออก ว่า แนวโน้มอนาคตการค้าและการส่งออกภาคบริการจะมีมากขึ้น ให้ทูตพาณิชย์ผลักดันส่งออกภาคบริการอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากการท่องเที่ยว เช่น อนิเมชั่น ภาพยนตร์ ควบคู่กับไปกับการส่งออกภาคสินค้า ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการลงทุนต่างประเทศของคนไทย นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ รวมถึงผลักดันการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ อย่างเช่นกูเกิล เฟซบุ๊ค เคยทำมา ดังนั้นทูตพาณิชย์จะต้องรับมือกับการค้ารูปแบบใหม่ของโลกที่เกิดขึ้นนี้ และในภาวะนิวนอร์มอลที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวระดับต่ำ และการค้าของทั่วโลกหดตัว และในประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม ทูตพาณิชย์จะต้องนำเอาโอกาสทางธุรกิจของโลกมาเป็นโจทย์ให้กับประเทศไทย โดยใช้การตลาดนำการผลิต

“การส่งออกสินค้าของไทยขณะนี้ในแง่ปริมาณยังไปได้ แต่ราคาสินค้าเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ยังทรงตัวระดับต่ำตามราคาตลาดโลก ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลกที่ไทยส่งออกไปยังรักษาไว้ได้ สะท้อนไทยยังมีขีดความสามารถแข่งขันส่งออก แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจ โดยได้เดินยุทธศาสตร์ที่ให้ความสำคัญและผลักดันส่งออกกลุ่มสินค้าที่มีปริมาณการส่งออกมาก และมีราคาสูง เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณี และกลุ่มสินค้าส่งออกปริมาณมาก แต่ราคาไม่สูง เช่น สินค้าเกษตร สำหรับการส่งออกปี 2559 มองตัวเลขที่เป็นไปได้อยู่ที่ ลบ 2 ถึง บวก 2%หากส่งออกได้มูลค่า 210,064 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึง 218,639 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ” นายสุวิทย์กล่าว และว่า ส่วนเป้าหมายการส่งออกของปี 2560 ขณะนี้ทูตพาณิชย์กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และประเมินสถานการณ์แนวโน้มของแต่ละประเทศ และน่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 9 กันยายนนี้

รายงานข่าวกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์เป้าหมายการส่งออกปี 2560 เบื้องต้นจะขยายตัวหรือเป็นบวก 3% จากปี 2559 ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว ตามเป้าหมายดังกล่าวจะต้องทำให้การขยายตัวส่งออกไปยังตลาดหลักที่สำคัญให้ได้ดังนี้ อเมริกาเหนือ บวก 2.9% ลาตินอเมริกา ติดลบ 0.1% ยุโรป บวก1% ตะวันออกกลาง บวก3.3% แอฟริกา บวก5% เอเชียใต้ บวก 2% อาเซียน บวก 2.5% เอเชียตะวันออกที่ประกอบด้วย จีน บวก3% ฮ่องกง บวก2% ไต้หวัน บวก3% ญี่ปุ่น บวก1% เกาหลีใต้ 0%ขณะที่ทวีปออสเตรเลีย บวก5%

สำหรับกลยุทธ์ในการผลักดันการส่งออกปีหน้าประกอบด้วย 1.ผลักดันเป็นรายคลัสเตอร์เชื่อมโยงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่การผลิต 2.ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวผ่านกลยุทธ์สร้างพันธมิตร เพื่อให้เป็นฐานสำคัญ ในการขยายลู่ทางไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค 3. ใช้กลยุทธ์ทำน้อยแต่ได้มาก เน้นสินค้าสร้างรายได้หรือกำไรสูง 4.ใช้การตลาดดิจิตอล เช่น เว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่มีอยู่ของไทย Thaitrade.com และเชื่อมโยงกับช่องทางอีคอมเมิร์ซของระดับโลก 5.ผลักดันการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อสร้างฐานประเทศไทยสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ และ 6.ขยายลู่ทางตลาดใหม่ให้กับสินค้าศักยภาพดั้งเดิม เช่น สินค้าเกษตรและอาหาร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image