รู้จัก “นาโนพีอี” ผ้าชนิดใหม่ สวมแล้วเย็นกว่าผ้าฝ้าย

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการคิดค้นสิ่งทอแบบใหม่ ที่สามารถทำให้ร่างกายผู้สวมใส่เย็นกว่าเมื่อสวมเสื้อผ้าคอตตอนทั่วไป

ยี่ คุ่ย ผู้เขียนรายงานการวิจัยดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารวิชาการ ไซนซ์ เปิดเผยว่า สิ่งทอแบบใหม่มีต้นตอมาจากพลาสติกสำหรับห่อผัก ผลไม้ หรือเนื้อเพื่อรักษาความสด ที่เรียกว่า “แร็ป” นั่นเอง อย่างไรก็ตามพลาสติกแร็ปปิดกั้นอากาศไม่ให้ผ่านไปมาได้ แต่มีคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่งนั่นคือปล่อยให้การแผ่รังสีมิด-อินฟราเรดผ่านทะลุออกไปได้โดยง่าย รังสีดังกล่าวคือรังสีใต้แดง หรือ รังสีความร้อนซึ่งแผ่ออกมาจากตัวเรานั่นเอง ซึ่งสิ่งทอทั่วไปไม่มีคุณสมบัติเดียวกันนี้

ทีมวิจัยค้นคว้าจนพบว่า แผ่นพลาสติกโพลีเอทิลีนทึบแสงแบบที่ใช้ในแบตเตอรี่ก็มีคุณสมบัติปล่อยให้รังสีความร้อนที่แผ่ออกจากร่างกายคนได้เช่นเดียวกัน จึงนำมาผ่านกระบวนการทำให้มีความพรุนมากขึ้น เป้าหมายเพื่อให้รูพรุนดังกล่าวเป็นช่องทางสำหรับให้เหงื่อจากร่างกายคนเราระเหยผ่านเสื้อผ้าที่ทำจากแผ่นพลาสติกดังกล่าวนั่นเอง ทั้งนี้เนื่องจากการระเหยของเหงื่อคือวิธีการตามธรรมชาติในอันที่จะทำให้ร่างกายของคนเราเย็นลง แม้จะอยู่ในท่ามกลางอากาศร้อนก็ตาม

หลังประสบความสำเร็จในกระบวนการสร้างความพรุนให้กับเนื้อพลาสติกแล้ว ทีมวิจัยยังจำต้องคิดค้นเพิ่มเติมเพื่อให้วัสดุใหม่มีความใกล้เคียงกับเนื้อผ้าสังเคราะห์มากที่สุดในขณะที่ยังคงคุณสมบัติเดิมไว้ ในที่สุดก็เลือกที่จะผลิตสิ่งทอใหม่นี้เป็น 3 ชั้น โดยใช้พลาสติกโพลีเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการเพิ่มความพรุน 2 แผ่นขนาบตาข่ายคอตตอนที่อยู่ตรงกลาง ผลลัพธ์เบื้องต้นที่ได้มีลักษณะตามภาพประกอบ เรียกว่า “นาโนโพรัส โพลีเอทิลีน” หรือเรียกย่อๆ ว่า สิ่งทอ “นาโนพีอี”

Advertisement

ทีมวิจัยนำผ้านาโนพีอีที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ไปเปรียบเทียบคุณสมบัติกับผ้าคอตตอนที่มีความหนาเท่ากันและขนาดแผ่นเท่ากัน พบว่า นาโนพีอีทำให้อุณหภูมิบนผิวเทียมที่ทำขึ้นเพื่อการทดลองเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 องศาฟาเรนไฮต์ ในขณะที่แผ่นผ้าคอตตอนทำให้อุณหภูมิบนผิวเทียมเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งหมายความว่า เสื้อเชิ้ตที่ตัดจากผ้าสังเคราะห์นาโนพีอี จะทำให้ผู้สวมใส่เย็นเนื้อตัวมากกว่าเสื้อผ้าคอตตอนมาก

อย่างไรก็ตาม ยี่ คุ่ย ยอมรับว่าทางทีมวิจัยยังต้องปรับปรุงผลงานวิจัยนี้อีกมากกว่าที่จะสามารถใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตเสื้อผ้า หรือแฟชั่นให้เป็นที่นิยมได้ อย่างไรก็ตามหากได้รับความนิยมสูงก็จะช่วยให้เราสามารถทนต่ออากาศร้อนได้เพิ่มมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศเหมือนก่อนหน้านี้

แทนที่จะลดอุณหภูมิของห้องทำงานหรือพื้นที่ที่ใช้ชีวิต ก็หันมาทำให้ตัวคนเย็นลงแทนนั่นเอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image