นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่ากิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า ตามแผนรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมรถยนต์ ไฟฟ้า(อีวี) 1.2 ล้านคันภายในปี 2579 จะส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งจุดนี้จะใช้วิธีเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า(สมาร์ทกริด) ทดแทนการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันกฟผ.ยังมองการบริการสถานีชาร์จไฟในต่างจังหวัดโดยเฉพาะแบบควิกชาร์จ โดยมีแผนจะสร้างสถานีชาร์ท 1 สถานีต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร บนถนนสายหลักมุ่งจังหวัดต่างๆ อาทิ สุขุมวิท เพชรเกษม พหลโยธิน เพราะมีสถานไฟฟ้าย่อยอยู่แล้ว ส่วนในเขตเมืองให้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)ดำเนินงาน โดยแผนการก่อสร้างสถานีชาร์ทไฟน่าจะมีความชัดเจนภายในต้นปี 2560
“กฟผ.จะขอทำพลังงานทดแทนอีก 1,500-2,000 เมกะวัตต์ วงเงินลงทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยรัฐต้องการให้เน้นไปที่พลังงานชีวมวลเพื่อให้ผลประโยชน์ตกถึงเกษตรกรเป็นหลัก รวมไปถึงพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เบื้องต้นจะติดตั้งที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงไฟฟ้ากระบี่ แห่งละ 2 เมกะวัตต์ พร้อมกับจะเสนอแผนการสร้างคลังแอลเอ็นจีลอยน้ำ หรือเอสเอฟอาร์ยูให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติพิจารณาปลายเดือนนี้”นายสหรัฐกล่าว
