09.00 INDEX : กรณี ของ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ บทเรียนสำคัญ พันธมิตร

นายสนธิ ลิ้มทองกุล (ภาพจากแฟ้มคดี)

กรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องคำพิพากษาจำคุก 20 ปี นำไปสู่มุมที่ แตกต่างกันเป็นจำนวนมาก

ไม่เพียงแต่ต่อชะตากรรม นายสนธิ ลิ้มทองกุล

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังต่ออนาคตและการดำรงอยู่ของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย

บ้างก็มองว่า จะยัง “เดินหน้า” ต่อไปหรือไม่

Advertisement

บ้างก็มองว่า ชะตากรรม นายสนธิ ลิ้มทองกุล เท่ากับเป็นการจุดชนวนใหม่

พลิกฟื้น “พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย”

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชน เพื่อ ประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นนปช. ไม่ว่าจะเป็นกปปส.ล้วนมีบทบาทที่แน่นอน

เป็นไปตามกฎแห่ง “อนิจจัง” เป็นไปตามกฎแห่ง”การเปลี่ยนแปลง”

นั่นก็คือ มีเกิดแล้วก็ย่อม “ดับ”

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีกำเนิดขึ้นในสถานการณ์ ทางการเมืองที่แน่นอน 1

นั่นก็คือ สถานการณ์ที่มี”พรรคไทยรักไทย”

เมื่อสามารถสร้างสถานการณ์กระทั่งนำไปสู่รัฐประหารและโค่นล้มพรรคไทยรักไทยได้เมื่อเดือนกันยายน 2549

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็หมดบทบาท

บางคนอาจโต้แย้งว่า หากหมดบทบาทไฉนพันธมิตรประชา ชนเพื่อประชาธิปไตย จึงก่อปรากฏการณ์ในเดือนพฤษภาคม 2551 ได้อีก

นั่นก็เนื่องจากชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550

ปรากฏการณ์นี้เพื่อล้ม “พรรคพลังประชาชน”

จำเป็นถึงกับต้องยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบินดอนเมือง ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ

แต่เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนทุกอย่างก็จบ

มีความพยายามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการ เคลื่อนไหวเรื่องเขาพระวิหาร เรื่องพลังงาน

แต่ก็ไม่ “เวิร์ค”

นับจากหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา บทบาทของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ที่มีอยู่จึงดำเนินไปในสภาพอันเรียกว่า

“พลังเฉื่อย”

เฉือยกระทั่ง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกลอบสังหารกลางเมืองในเดือนเมษายน 2552

เฉื่อยกระทั่ง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาลจากคดีที่ก่อขึ้นเป็นจำนวนมากมาย

ในที่สุด ก็ต้องเดินเข้าคุกตามคำพิพากษา

เท่ากับตอกย้ำ ยืนยันว่า ที่ควรจะจบก็จำเป็นต้องจบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image