เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งที่ 3 ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปล่อยปละละเลย ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนเกิดความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีประชาชนเดินทางมารอพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมมอบดอกไม้และสิ่งของให้กำลังใจเหมือนเช่นการเดินทางมายังศาลทุกครั้ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีว่า หากมีการใช้คำสั่งทางปกครองฟ้องในส่วนคดีทางแพ่งเพื่อยึดทรัพย์นั้น เห็นว่าคดีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของอาญา ต้องรอผลทางอาญาก่อน ไม่ควรก้าวล่วงศาล และตัวเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ต้องขอบคุณทุกกำลังใจจากประชาชน ส่วนกรณีมีผู้นำข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าวมาเปิดเผย เห็นว่าข้อมูลควรเป็นกลาง ไม่ควรรั่วไหล ขออย่าชี้นำคณะกรรมการตรวจสอบการรับผิดทางละเมิด อยากให้พิจารณาจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญอีกว่า ขณะนี้ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายลูก แต่เมื่อประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว กฎหมายลูกก็ควรพิจารณาตามเนื้อหาและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ทนายจำเลยได้นำนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด และนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการอิสระ เข้าเบิกความเป็นพยาน โดยก่อนหน้านี้ศาลได้ไต่สวนพยานไปแล้ว 2 นัด ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เเละนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
