อีสานตอนล่างโรคฉี่หนูเริ่มระบาด หลังพบผู้ป่วยแล้ว 143 ราย เสียชีวิต 2 ราย
นครราชสีมา วันนี้ (10ก.ย.59) นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่าภายหลังจากในหลายพื้นที่ของอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ อีกทั้งเกษตรกรบางได้เริ่มทำการเพาะปลูกพืช ดังนั้นหากประชาชนหรือเกษตรกรที่จำเป็นจะต้องลงแช่น้ำเป็นเวลานานก็ควรที่จะสวมใส่รองเท้าบูท เพื่อป้องกันการป่วยเป็นโรคเล็บโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู ภายหลังจากตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 9 กันยายน 2559 เพียง 9 เดือน พบผู้ป่วยโรคฉี่หนูรวมทั้งสิ้น 143 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย แยกเป็นรายจังหวัด แยกเป็น จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วย 21 ราย , จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 18 ราย , จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 94 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และจ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 10 ราย
ทั้งนี้หากประชาชนหรือเกษตรกรที่จำเป็นต้องเดินลุยน้ำหรือต้องแช่น้ำเป็นเวลานานควรเตรียมอุปกรณ์การป้องกันตนเองให้พร้อม เช่น รองเท้าบูท ถุงมือ หรือถ้ามีบาดแผล รอยถลอก ขีดข่วนให้ปิดแผล และหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่ท่วมขัง หรือพื้นที่ชื้นแฉะ หรือแช่ลงในห้วย หนอง คลอง บึง หากแช่น้ำหรือลงไปย่ำในน้ำให้รีบอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายโดยทันที สำหรับผู้ที่มีอาการสงสัยคล้ายป่วยเป็นโรคฉี่หนู เช่น มีอาการไข้ ปวดศีรษะ เจ็บกล้ามเนื้อที่โคนขาและน่อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง โดยเฉพาะเมื่อมีอาการภายหลังจากลุยน้ำ ไม่ควรไปซื้อยามารับประทานเอง แต่ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพราะโรคฉี่หนูมียาฆ่าเชื้อรักษาได้ ซึ่ง ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกอำเภอเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนูอย่างเข้มข้น เนื่องจากโรคฉี่หนูเป็นโรคที่แพร่ระบาดในช่วงเข้าสู่ฤดูฝน โดยมีหนูเป็นตัวแพร่เชื้อโรคที่สำคัญ ติดต่อโดยการสัมผัสกับปัสสาวะสัตว์นำโรคโดยตรง หรือติดทางอ้อมจากแหล่งน้ำทุ่งนา น้ำท่วมขังที่มีเชื้อโรคปนอยู่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลตามร่างกาย ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้ นายแพทย์ธีรวัฒน์ฯกล่าว
