เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตำรวจนครบาลพหลโยธิน ควบคุมตัวนายวรสิทธิ์ สายวร ลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งนักนิติวิทยาศาสตร์ ฝ่ายบริหารวัตถุพยาน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ไปสอบปากคำเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการปลอมเช็คสั่งจ่ายค่าตรวจพิสูจน์ จากศาลแพ่ง ที่ส่งไปยังสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ว่า จาการสอบปากคำนายวรสิทธิ์ รับสารภาพว่าดำเนินการแก้ไขเช็คฉบับดังกล่าวจริง และดำเนินการคนเดียว ไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้อง สำหรับหลักฐานที่มีการปลอมหรือเช็คฉบับดังกล่าว รอทางธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นธนาคารที่สั่งจ่ายเงิน ส่งมายังพนักงานสอบสวน
ด้าน พ.ต.ท.สุพจน์ นาคเงินทอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และมอบหมายให้ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะดำเนินการไล่ออก บุคคลดังกล่าว จากนั้นจะให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีการใช้น้ำยาพิเศษ ลบตัวหนังสือ และแก้ไขตัวเลขจากเช็คตัวจริง พ.ต.ท.สุพจน์ กล่าวว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน จากการสอบถามเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ทราบว่าลูกจ้างชั่งคราวรายนี้ ทำงานดี อยู่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มา 4 ปีแล้ว แต่เหตุผลที่คิดตามแบบนี้ไม่ทราบข้อเท็จจริง ทั้งนี้เชื่อว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการรายอื่นๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง แค่คิดด้วยวิธีการปลอมแปลงเช็คก็ไม่จะรอดแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า นายวรสิทธิ์ได้เห็นเช็คดังกล่าว สั่งจ่ายผิด จึงเก็บไว้นานกว่า 4 เดือน จึงคิดว่าไม่มีการทวงถามจากหน่วยงานต้นสังกัด จึงใช้วิธีการปรับแก้ข้อความภายในเช็ค ด้วยเทคนิคพิเศษมีน้ำยาทางกระบวนการวิทยาศาสตร์ลบข้อความ และปลอมบัตรข้าราชการเป็น ยศ ร.ต.ท. เพื่อขอธนาคารเปิดบัญชี ทั้งนี้ นายวรสิทธิ์เป็นนักนิติวิทยาศาสตร์จะรับหน้าที่ในกลุ่มบริหารจัดการวัตถุพยาน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดำเนินการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานต่าง ๆ ที่ส่งมายังสถาบัน มีความสามารถในการใช้เครื่องมือ และน้ำยา เพื่อการตรวจสอบพิสูจน์ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจ จากผู้บังคับบัญชา
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินว่ามีการปลอมเอกสาร เช็ค สั่งจ่ายค่าตรวจพิสูจน์ โดยเช็คฉบับดังกล่าวถูกส่งมาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จนกระทั่งสืบทราบว่ามีบุคคลในสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปเกี่ยวข้อง จึงเข้าจับกุมนำตัวไปสอบสวนขยายผล และเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ได้ทำหนังสือมายังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบทะเบียนรับส่ง หนังสือของหน่วยงาน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ วันที่ 3 กันยายน 2558 เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน เนื่องจากศาลแพ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ว่าเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 ศาลแพ่งได้ออกเช็คธนาคารออมสิน สาขายุติธรรม เลขที่ 07926021 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2558 สั่งจ่าย เงิน 23,213 บาท เพื่อชำระค่าตรวจพิสูจน์เอกสารให้กับ “กองพิสูจน์หลักฐานกลาง”
ต่อมาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 พบว่าเช็คดังกล่าวได้เปลี่ยนชื่อบัญชี เป็น “ก้องพิสูจน์ สักฎ์ภูมิกลาง” เปลี่ยนจำนวนเงินเป็น 2,00,213 บาท แล้วโอนเข้าบัญชี เลขที่ 008-3-68253-1 ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 40,000 บาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารการส่งหนังสือพบว่าหนังสือถึงผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตามทะเบียน 0519-6 ลงวันที่ 3 กันยายน 2558 จึงขอความร่วมมือในการตรววจสอบทะเบียนการส่งเอกสาร
