สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ปะทะกันในเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยนายทรัมป์ระบุว่านางฮิลลารีเป็น “พวกกระหายสงคราม” ขณะที่นางฮิลลารีบอกว่า นโยบายของนายทรัมป์จะทำให้โลกนี้กลายเป็นสถานที่ที่อันตรายมากขึ้น
ข่าวระบุว่า คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่โต้ตอบกันในเรื่องว่าใครเป็นผู้ที่ดีที่สุดในการรับบทบาทเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพสหรัฐที่มีแสนยานุภาพมากที่สุดในโลก โดยทั้ง 2 พยายามเรียกเสียงสนับสนุนจากบรรดาผู้นำกองทัพเกษียณอายุ และโจมตีความสามารถในการบริหารและการตัดสินใจของคู่แข่ง
นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังจุดประเด็นที่ทำให้เกิดข้อโต้แย้งเป็นอย่างสูงด้วยการยกย่องประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ว่าเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมีผลงานดีกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ซึ่งทั้งนางฮิลลารี สมาชิกพรรคเดโมแครตและแม้กระทั่งสมาชิกบางส่วนของพรรครีพับลิกันเองยังออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย
นายทรัมป์กล่าวในการหาเสียงที่การประชุมผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยึดถือคุณค่าความเป็นอนุรักษนิยมในกรุงวอชิงตัน ว่านางฮิลลารี “ล้มเหลวอย่างมหาศาล” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยกล่าวโทษว่าเธอเป็นสาเหตุของสถานการณ์ยุ่งเหยิงวุ่นวายในตะวันออกกลางทุกวันนี้
“ปัญหาคือ ฮิลลารี คลินตันกระหายสงคราม ยุคสมัยของเธอนำมาแต่สงคราม การทำลายและความตาย เธอผลักดันให้เกิดการรุกล้ำ แทรกแซงและการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่รวดเร็วเกินไป”
ด้านนางฮิลลารีที่พบหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศในนครนิวยอร์ก วันเดียวกันระบุว่า ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันให้สัญญาว่าจะทำในสิ่งที่ทำให้พวกเราปลอดภัยน้อยลง ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงจากทั้ง 2 ฟากฝั่ง รู้สึกหวาดเสียวเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาพูด”
