“วิษณุ” เตรียมหารือ รบ.หลังเยี่ยมชม ผลวิจัยก่อสร้างถนนยางพารา ของ มจพ. พบ ใช้น้ำยาง 10 ตัน/กม. ก่อสร้าง 2 วันเสร็จ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ(มจพ.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนวัตกรรมงานวิจัยสร้างถนนด้วยยางพารา ใน”โครงการสร้างถนนยางพาราพอลิเมอร์ดินซีเมนต์” ซึ่งเป็นโครงการเพื่อพัฒนาน้ำยางพาราเป็นสูตรส่วนผสมสำหรับการก่อสร้างถนนยางพาราดินซีเมนต์และเพิ่มปริมาณการนำน้ำยางพาราในประเทศไปใช้ประโยชน์ตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งยังช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราในการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ โดยมีนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ให้การต้อนรับ
ผศ.ดร.ระพีพันธ์ แดงตันกี อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและกระบวนการ บัณฑิตวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย- เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผู้ริเริ่มโครงการ เปิดเผยว่า จากการวิจัยพบว่า ถนนขนาด 1 ตารางเมตร สามารถนำน้ำยางไปใช้ได้ 3 ลิตร หากถนนความยาว 1 กิโลเมตร สามารถใช้น้ำยางได้ถึง 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม และพบว่ามีต้นทุนต่อตารางเมตร อยู่ที่ 240 – 280 บาท/ตารางเมตร ซึ่งหากนำมาเปรียยเทียบในเรื่องต้นทุนต่อตารางเมตรของถนนคอนกรีตที่ประเทศไทยนิยมใช้ในปัจจุบัน พบว่ามีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 800 – 850 บาท/ตารางเมตร โครงการนี้สิ่งสำคัญคือการสร้างมูลค่าของสินค้าการเกษตร และเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักและการจ้างงานขนาดใหญ่ของประเทศ ด้วยการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มของวัตถุดิบทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม การสร้างถนนจากยางพาราสามารถทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เช่น ถนนที่มีความยาว 1-5 กิโลเมตร สามารถทำให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1-2 วัน ดังนั้นจากปกติที่ 1 ปี สามารถก่อสร้างถนนได้เพียง 10 เส้น ก็สามารถสร้างได้ 100 เส้นด้วยนวัตกรรม
ผศ.ดร.ระพีพันธ์ ด้วยข้อดีเหล่านี้จึงเสนอรัฐบาลก่อสร้างถนนด้วยยางพารา หากรัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งสร้างจะสามารถประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างถนนของภาครัฐได้ นอกจากนี้หากเริ่มการก่อสร้างราคายางพาราจะขยับขึ้นประมาณ 20-25 บาท/กิโลกรัม ส่งผลให้ราคายางพาราขยับขึ้นจาก 45 บาท/กิโลกรัม เป็น 65 บาท/กิโลกรัมได้ โดยไม่กระทบต่อราคาต้นทุนในการก่อสร้างถนน ทั้งนี้หากรัฐบาลให้ความสนใจทางมหาวิทลัยจะออกใบรับรองมาตรฐานให้ ขณะนี้ใช้งบประมาณของมหาวิทยาลัยในการศึกษาวิจัยไปแล้ว 8 แสนบาท และหากรัฐบาลจะสนับสนุนจะต้องใช้งบในกาาศึกษาเพิ่มเติมประมาณ 20 ล้านบาท
นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนวัฒกรรม ซึ่งปัญหายางพาราเป็นเรื่องด่วน ทั้ง 1.การเก็บรักษา 2.การระบาย 3.ปัญหาราคายาง ซึ่งโจทย์ 3 ข้อนี้ ทางพระจอมเกล้าฯสามารถตอบโจทย์ได้ และจากนี้ตนจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อรัฐบาล เพื่อหารือกันอีกครั้งหนึ่ง ข้อเสนอของมหาวิทยาลัยฯ ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงที่รัฐบาลจะยื่นมือมาช่วย รัฐบาลสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาทำการวิจัยเพื่อเสนอเข้ามาเพื่อให้ประเทศมีทางออกเรื่องต่างๆ
