วันที่ 14 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกติดต่อกันตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งรับน้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ หมู่ 3 บ้านชมภู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ที่สะพานคอนกรีตข้ามคลองชมพู ภายในหมู่บ้านระดับน้ำได้เอ่อท่วมลิ้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใกล้จำนวนหลายหลัง แต่ยังไม่มีผลกระทบมากนัก โดยในคืนที่ผ่านมาระดับน้ำได้ท่วมพื้นสะพานสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้การสัญจรไปมาไม่ได้ แต่ในช่วงเช้าระดับน้ำค่อยๆลดลงจนสามารถใช้เส้นทางผ่านไปมาได้ตามปกติ โดยมีชาวบ้านและทหารจำนวนหนึ่งได้ช่วยกันใช้ไม้ยาวเขี่ย ทำการกำจัดเศษสวะ กิ่งไม้ ที่ขวางทางน้ำออกจากสะพาน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกขึ้น
นายพีระพงษ์ สุขหมอน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 เปิดเผยว่า หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องไม่หยุด จนเวลาประมาณ 02.00 น. ระดับน้ำได้ล้นตลิ่ง สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ตนพร้อมชาวบ้านได้ออกไปตรวจสอบระดับน้ำในคลองชมพู พบว่าจากระดับ 3 เมตร เพิ่มขึ้นเป็น 7 เมตร และสูงสุด 7.7 เมตร จึงประกาศให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของเอาไว้ที่สูง เพื่อป้องกันน้ำท่วม ตอนนี้มีพื้นที่ไร่ข้าวโพดของชาวบ้านถูกน้ำท่วมเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ ช่วงที่น้ำป่าหลากได้เข้าไปช่วยเหลือผู้สูงอายุ 2 ราย เนื่องจากน้ำได้ไหลท่วมบ้าน เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงเอามาอยู่ที่บ้านตนชั่วคราว
นอกจากบ้านชมพูที่ถูกน้ำท่วมแล้วยังมี หมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู จุดที่รองรับกระแสน้ำป่าที่ไหลมาจากบ้านชมภู ได้เข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน และถนนคอนกรีตเป็นระทาง 2 กิโลเมตร ทำให้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ผู้ใช้เส้นทางผ่านไม่ได้ เนื่องระดับน้ำสูงถึง 60 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่วมบ้านเรือนประชาชน 200 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำส่งผลให้โรงเรียนบ้านปลวกง่าม ต้องหยุดการเรียนการสอนในวันนี้ทันทีด้วย
