ป่าไม้นำกำลังทวงป่าสงวนกรุงชิงเนื้อที่กว่า 139 ไร่ รื้อถอนผลอาสินต่อหน้าชาวบ้านยืนคัดค้าน

วันที่ 16 กันยายน นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ในการรื้อถอน ทำลายพืชผลอาสินอื่น ๆ ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของเครื่องใช้ของผู้กระทำผิด ตามมาตรา 25แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งพื้นที่รื้อถอนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิง บ้านเขาไม้ไผ่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย กรมป่าไม้ ทหาร มทบ. 41 ตชด.ที่ 424 (สิชล) ตำรวจ สภ.นบพิตำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 150 นาย ร่วมปฏิบัติการปฏิบัติการรื้อถอน ทำลายผลอาสินในระหว่างวันที่ 15-16 ก.ย. 2559 จำนวน 16 แปลง เนื้อที่รวม 139 ไร่ 2 งาน 68 ตารางวา

นายสุริยะ ถาวรแก้ว ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) กล่าวว่า การรื้อถอนผลอาสินฯที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิงในครั้งนี้กำหนด เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกและเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นศ. 23 (สิชล) ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2558 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และได้แจ้งให้ทางผู้บุกรุกทราบ เพื่อทำการอุทธรณ์ตามกำหนดระยะเวลา แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อถอน ซึ่งจะมีทั้งส่วนที่เป็นผลอาสินและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจะไม่ดำเนินการรื้อถอนในวันนี้ เนื่องจากได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาล จึงต้องรอคำพิพากษาของศาล

ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนอยู่นั้น ได้มีชาวบ้านกว่า10 คน เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อคัดค้านการรื้อถอน ตัดโค่น ทำลายผลอาสิน โดยนำหนังสือด่วนที่สุดจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงวันที่ 7 ก.ย. 2559 เรื่องการแจ้งให้ทราบความคืบหน้าเรื่องร้องเรียนที่ชาวบ้าน โดยได้ยื่นร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นศ.2 (สิชล) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) กรณีคำสั่งทางปกครองให้ออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิง และรื้อถอนผลอาสินให้พ้นเขตป่าสงวน ฯโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตอบกลับมาว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้วอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลคืบหน้าจะเรียนแจ้งให้ทราบต่อไป การนำมาอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่สามารถรื้อถอนหรือทำลายผลอาสินได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่เป็นผลใด ๆ เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังทำการรื้อถอน ตัดฟัน ทำลายผลอาสิน ท่ามกลางสายตาของผู้คัดค้าน ที่พยายามจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งและคลิปวีดิโอการรื้อถอน ตัดฟัน ทำลายผลอาสินไว้ทุกขั้นตอนอย่างละเอียด

ด้านนาย กอ  (นามสมมุติ) ชาวบ้านที่ยืนคัดค้าน เปิดเผยว่า วันนี้พวกเราทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาบุกรุกในพื้นที่สัมปทานของเหมืองแร่แห่งหนึ่ง การที่ทาง จนท.อ้างว่า พวกเราบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิง นั่นย่อมหมายความ พื้นที่แห่งนี้เหมือนแร่แห่งนี้ก็บุกรุกเช่นกัน ทำไมไม่ไปเอาผิดจากเหมืองแร่ แต่มาเอาผิดจากเรา ที่สัมปทานเหมืองแร่แห่งนี้ พวกเราได้อาศัยทำกินมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ปลูกผลอาสิน เฉพาะทุเรียนสามารถสร้างรายได้ให้กับพวกเราและครอบครัว แต่สิ่งที่ จนท.ปฎิบัติการเช่นนี้เท่ากับ เลือกปฎิบัติ ทำไมไม่ไปตรวจสอบเหมืองแร่บ้างล่ะว่าบุกรุกไปเท่าไหร่

Advertisement

“พวกตนได้ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานกับผืนแผ่นดินนี้ เสียทั้งชีวิตของนายพิธาน ทองพนัง เสียทั้งเงินทองในการต่อสู้ แต่ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด ก่อนนี้ทางเหมืองแร่อนุญาตให้เข้าทำกินในพื้นที่ของเหมืองแร่ในสมัยรุ่นพ่อ ต่อมารุ่นลูกเข้ารับช่วงดำเนินกิจการต่อ จึงขับไล่กลุ่มชาวบ้านที่อาศัยทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ถามว่า พื้นที่ที่ทำกินตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นลูกก็คือส่วนหนึ่งของพื้นที่สัมปทานเหมืองแร่ แล้ววันนี้เจ้าหน้าที่อ้างว่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิงทั้งๆที่เหมืองแร่ก็อยู่ในพื้นที่แห่งนี้เหมือนกัน แล้วมันคืออะไร” ชาวบ้านที่คัดค้าน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image