กรมอุทยานฯปล่อยม้าน้ำ 100 ตัว หาดเจ้าไหม นำร่องอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) จัดเปิดโครงการฟื้นฟูประชากรม้าน้ำในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ พร้อมมอบพันธุ์ม้าน้ำ จำนวน 100 ตัว ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นักดำน้ำที่มีความเชี่ยวชาญนำลงไปปล่อยยังกรงพักม้าน้ำใต้ทะเล บริเวณเกาะมุก ห่างจากฝั่ง 8 กิโลเมตร โดยมีพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง สำนักงานเลขาธิการ ไซเตส เอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ ประชาชนในพื้นที่ จ.ตรัง ร่วมงานกว่า 500 คน

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ม้าน้ำเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างมาก จากความเชื่อที่ว่าม้าน้ำมีคุณสมบัติเป็นยา จึงนำมาใช้เป็นองค์ประกอบของยาในการรักษาโรคต่างๆ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ นำมาเป็นเครื่องประดับ พวงกุญแจ และยังมีการนำมาเลี้ยงอีกด้วย ซึ่งเป็นม้าน้ำที่ได้จากธรรมชาติเกือบทั้งหมด จนทำให้เกิดความกังวลใจจากหลายประเทศว่าม้าน้ำอาจสูญพันธุ์ได้ ม้าน้ำจึงถูกนำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส บัญชี 2 ซึ่งต้องควบคุมหรือจำกัดปริมาณในการค้า เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อการลดจำนวนประชากรม้าน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยที่จะอนุรักษ์ม้าน้ำ ตามคำร้องขอของไซเตส

ด้านนายธัญญา กล่าวว่า ก่อนจะมีการปล่อยม้าน้ำ กรมฯได้ให้อุทยานฯ หาดเจ้าไหม เตรียมความพร้อมตั้งแต่การสำรวจประชากรม้าน้ำ และทดลองปล่อยม้าน้ำที่ได้รับมาจากรมประมง จำนวน 6 ตัว บริเวณหาดหยงหลำ-เกาะมุก เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงนำมาซึ่งความพร้อมที่จะปล่อยม้าน้ำอีก จำนวน 100 ตัว ได้แก่ ม้าน้ำดำ โดยหลังจากนี้คณะกรรมการฯ และคณะทำงาน จะร่วมกันสร้างความรู้ความเข้าใจ ร่วมกันฟื้นฟูประชากรม้าน้ำ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แก่ชาวบ้าน ชุมชนชายฝั่งในการอนุรักษ์ม้าน้ำ การป้องกัน และปราบปรามการลักลอบค้าม้าน้ำ และการประเมินติดตามผลการดำเนินโครงการฯ โดยคาดหวังให้ประชากรม้าน้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้น พร้อมกับเป็นการสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของ ชาวบ้าน ชุมชนชายฝั่งในการอนุรักษ์ม้าน้ำ เพื่อให้ทรัพยากรใต้ทะเลอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image