วันที่ 18 กันยายน นายเฉลิมชัย รัฐศาสตร์วาริน อายุ 35 ปี หรือจิมมี่ ชาว อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เกษตรกรหนุ่มดีกรีจบวิศวกรจาก ม.ขอนแก่น กำลังง่วนอยู่กับการสั่งงานให้คนงานดูแลต้นอ้อยของตนเอง ที่ลงทุนปลูกในพื้นที่เช่าและของตนเองในเนื้อที่ 600 ไร่ รอขนาดลำต้นและความหวานได้ที่เตรียมตัดและขนส่งโรงงาน
นายเฉลิมชัยกล่าวถึงเส้นทางก่อนจะมาถึงการปลูกอ้อยอย่างเต็มตัวเล่าว่า เมื่อ 7 ปี ก่อน หลังจากเรียนจบวิศวกร ได้เดินทางในเส้นทางอาชีพรับเหมา และงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่ตนเองเรียนมา รายได้ไม่ต้องห่วงดีพอสมควรสามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้สบาย แต่ปรากฏว่าทำไปทำมารู้สึกว่าไม่ใช่งานที่ตนเองรักเพราะทำไปไม่มีความสุขรู้สึกเบื่อๆ แต่เดิมมีความคิดอยู่แล้วว่าอยากทำเกษตร จึงลองศึกษาว่า อยากจะปลูก ไร่ชา องุ่น แต่ศึกษาแล้ว อ้อย น่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ดีกว่า นอกจากอ้อยจะผลิตเป็นน้ำตาลแล้วยังเป็นพืชพลังงาน เพราะราคาไม่ผันผวนมากหรือตกมาก เช่นกับ ยางพารา มันสำปะหลัง ส่วนการดูแลรักษาอ้อยไม่ยากนัก เพราะมีศัตรูพืชและโรคน้อย น่าจะทำเงินดี ช่วงแรกก็ลำบากไม่เคยทำ เพราะไม่มีประสบการณ์ ต่อมาก็ทำมาเรื่อยๆ ศึกษาจากคนที่ปลูกในพื้นที่ แล้วเรามีประสบการณ์ จะรู้ว่าจะปลูกตอนไหน อ้อยจะเกิดดี ดูแลอย่างไรให้ผลผลิตดี
สำหรับรายได้ จากการปลูก ลงทุนต่อไร่เฉลี่ย 6,000-7,000 บาท เราจะได้กำไรไร่ละ 6,000-7,000 บาท แต่ว่าปีนึง ถึงจะขายได้ปีต่อไป เวลาอ้อยเกิดอีกก็จะขายได้อีก อ้อยใน 1 ไร่ สามารถให้ผล ผลิต 2-3 รอบ หากเราตั้งใจดูแลดีๆ อ้อยใน 1 ไร่ สามารถสร้างรายได้ถึงไร่ละ 10,000 บาท ต่อรอบการผลิต ยิ่งปลูกมากยิ่งได้เยอะ ถ้าสมมุติเรามี 10 ไร่ก็จะได้ปีละ 100,000 บาท ต่อครอบครัว ยิ่งปลูกมากจะทำให้มีรายได้หลักล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ส่วนพันธุ์อ้อยที่ปลูก ต้องดูสภาพดิน เช่น ดินทราย ให้ปลูก พันธุ์อู่ทอง ดินร่วนปนทรายให้ปลูกพันธุ์ขอนแก่น 3 ปัจจุบัน ที่ไร่ของตนลำพังไม่สามารถดูแลได้หมด จนมีการเกิดการจ้างงานโดยการจ้างชาวบ้านมาช่วยงาน สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน สำหรับทิศทางการปลูกอ้อยในอนาคต น่าจะไปได้ดี หากมีการตั้งโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นโรงงานเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกำลังจะก่อสร้างเพื่อรองรับการเติบโตของอาเซียน จะสามารถลดต้นทุนการขนส่งและเป็นเกษตรทางเลือกให้กับชาวบ้านนอกจากจะทำนาแล้วอาชีพปลูกอ้อยน่าจะเป็นอาชีพที่เติบโตและสดใสสามารถดึงเม็ดเงินเข้าประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรชาวสกลนคร
