เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 กันยายน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภ.5 นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 นายสิทธิศักดิ์ กัลยาณประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายพงศ์พันธ์ พัฒนภักดี ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้ชื่อปฏิบัติการประชารัฐตัดวงจรการค้ายาเสพติด 5-2-1 ป.ป.ส. เข้าปิดล้อม 29 เป้าหมาย 10 จังหวัดทั่วประเทศ ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ชลบุรี สมุทรปราการ อ่างทอง เชียงใหม่ ลำพูน นครราชสีมา สระบุรี และน่าน
จุดสำคัญในการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ บ้านเลขที่ 134/412 หมู่บ้านสีวลี 2 รังสิต คลองสอง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล อายุ 44 ปี และ น.ส.วราภรณ์ เลิศอริยธนากุล อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ข้อหาสมคบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงจับกุมพร้อมของกลางเงินฝากในบัญชี จำนวน 17 บัญชี รวมเป็นเงิน 4 ล้านบาท เช็คเงินสด 18 ฉบับ รวม 1.5 ล้านบาท พร้อมอายัดบ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อพาร์ตเมนต์ รวม13 รายการ มูลค่า100 ล้านบาท รถเบนซ์และรถยนต์หรูรวม 14 คัน มูลค่า 15 ล้านบาท รถบรรทุก รถแบ๊กโฮ 16 คัน เจ็ตสกี 2 ลำ มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดอายัด ประมาณ 200 ล้านบาท หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดชาวเขาเผ่าจีนฮ่อ มูเซอ และอาข่า ในพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือและในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ก่อนขยายผลจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ภ.5 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมนายภูมิพิพัฒน์ อินทร์ประดิษฐ์ พร้อมยาบ้า 398,000 เม็ด ยาไอซ์ 3 กิโลกรัม ต่อมาวันที่ 6 มกราคม สืบสวนขยายผลจับกุมนายประทีป หรือชีพ สร้อยทรัพย์ หรือนายกมลชัย อัครวินท์ธรรม กับพวกรวม 9 คน พร้อมอาวุธปืนเอ็ม16 จำนวน 5 กระบอก และอาวุธปืนเล็กยาว AK-47 จำนวน 5 กระบอก
นายศิรินทร์ยา กล่าวต่อว่า ต่อมาได้สืบสวนขยายผลเส้นทางการเงิน พบเป็นขบวนการใหญ่ มีนายวีระพล แซ่มู่ ชาว จ.เชียงใหม่ เป็นตัวกลางคอยประสานงานกับฝ่ายเจ้าของยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ในการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือลงสู่พื้นที่ตอนใน และว่าจ้างชนเผ่าในพื้นที่เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามา มีนายสมชาย เลาเซิ้น ชาว จ.เชียงใหม่ เป็นผู้จัดหาผู้ลำเลียงทีมลำเลียงยาเสพติดส่งต่อไปยัง จ.ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ในการปฏิบัติการของขบวนการรับจ้างลำเลียงขนยาเสพติด จะใช้วิธีการลำเลียงซุกซ่อนอำพรางไปกับรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตร โดยมีนายฐิติวัฒน์ หนูสา น.ส.สุนัน สารพันธ์ กับพวก รับจ้างขนลำเลียงยาเสพติด จากแนวชายแดนภาคเหนือ และมีนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล เป็นผู้รับยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและทำหน้าที่กระจายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
นายศิรินทร์ยา กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม สามารถสืบสวนติดตามจับกุมนายฐิติวัฒน์ หนูสา กับพวกรวม 4 คน พร้อมยาบ้า 218,000 เม็ด ซุกซ่อนกับพืชผลทางการเกษตรที่บรรทุกอยู่ในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ผล 8645 เชียงใหม่ จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการสั่งซื้อ คือนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล และนายเจริญ ดาวดวงสุข จะรอรับยาบ้าอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และใกล้เคียง จึงขยายผล ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม จับกุมนายเจริญ ดาวดวงสุข อายุ 32 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ ขณะมารับยาเสพติดของกลาง พร้อมตรวจยึดรถกระบะ 1 คัน ส่วนนายณัฐวัฒน์กับพวกหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติจับกุมผู้ร่วมขบวนการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและศาลออกหมายจับรวม 7 ราย มีนายวีระพล แซ่มู่ นายสมชาย เลาเชิ้น นายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล นายเจริญ ดาวดวงสุข น.ส.วราภรณ์ เลิศอริยธนากุล นายสมพร ศรีสร้างคอม และ น.ส.ณัชชา ภัทรจิรประภา ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุน
นายศิรินทร์ยา กล่าวด้วยว่า เครือข่ายนี้ถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและปริมณฑล การตัดวงจรการค้ายาเสพติดทั้งกลุ่มนำเข้ายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ กลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดและกลุ่มกระจายยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน โดย บช.ภ.5 ได้สืบสวนติดตามเส้นทางการเงินของเครือข่าย ตามนโยบายของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อตัดวงจรการเงินของนักค้ายาเสพติด เร่งลดความเดือดร้อนของประชาชน จากการสืบสวนพฤติการณ์ของผู้เกี่ยวข้อง และยังพบบัญชีที่มีความเชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากทั้งหมดอีกจำนวนหนึ่ง จะขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากสืบพบการทำธุรกรรมด้านการเงินของเครือข่ายใดก็ตาม จะปราบปรามจับกุมดำเนินคดี และติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ลดปัญหายาเสพติดในภาพรวม และสังคมต้องมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่านายณัฐวัฒน์ได้เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ให้เช่าอพาร์ตเมนต์บังหน้าเพื่อไม่ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามได้ จากการตรวจสอบทราบว่า นายณัฐวัฒน์เคยมีประวัติตั้งกลุ่มลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ภาคกลางด้วย
