เมื่อวันที่ 19 กันยายน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ของ 5 องค์กรหลัก ในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้พิจารณาเรื่องที่สำนักงานปลัด ศธ.เสนอขอเกลี่ยอัตรากำลังตำแหน่งที่ปรึกษาระดับทรงคุณวุฒิ หรือซี 10 ของทุกส่วนราชการมาใช้เป็นฐานในการกำหนดตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ศธ.ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารเพิ่มอีก 6 ตำแหน่ง รวมกับผู้ตรวจราชการ ศธ.ที่มีอยู่เดิม 12 ตำแหน่ง รวมมีผู้ตรวจราชการ ศธ. 18 ตำแหน่ง เพื่อมอบหมายผู้ตรวจราชการ ศธ.ให้ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาคด้วย ทั้งนี้ ตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ที่ขอโอนมาเป็นของ สป.ศธ.มี 2 ตำแหน่ง ส่วนองค์กรหลักที่เหลือตัดโอนมาหน่วยงานละ 1 ตำแหน่ง
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เสนอรายชื่อผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งผู้บริหารซี 10 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการใน 5 ตำแหน่ง ได้แก่ รองปลัด ศธ. 2 ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1 ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 1 ตำแหน่ง และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 1 ตำแหน่ง ไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าจะพิจารณาได้ในวันที่ 27 กันยายน
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับการแต่งตั้งเลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.นั้น นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ.ได้เสนอรายชื่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 3 ตำแหน่งใหม่มาให้ตนแล้ว เนื่องจากทั้ง 3 คนมีภาระงานจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัด ศธ.ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการ กพฐ.ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ที่ต้องไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กอศ.และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ซึ่งตนต้องพิจารณาว่าจะแต่งตั้งตามที่เสนอได้เลย หรือต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.และที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาก่อนหรือไม่
