“บิ๊กต๊อก” เผย มท.เช็กรายชื่อ อปท.เอี่ยวทุจริตกว่า 70 ราย ส่ง ศอตช. แล้ว รอประกาศล็อต 8

“บิ๊กต๊อก” เผย มท.เช็กรายชื่อ อปท.เอี่ยวทุจริตกว่า 70 ราย ส่งศอตช. แล้ว รอประกาศบัญชีล็อต 8 เตรียมดึง”สรส.”ร่วมแก้ปัญหาทุจริตจ่อ ตั้งเป็น”อนุกรรมการ ศอตช.” ระบุ ปัญหาทุจริตต้องร่วมกันแก้ทุกภาคส่วน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ก.ย. ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สานักงานใหญ่ ถ.วิภาวดี กรุงเทพฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ธรรมาภิบาลกับรัฐวิสาหกิจไทย” ในโครงการเสวนาทางวิชาการ เรื่องธรรมาภิบาลกับรัฐวิสาหกิจไทย โดยมีผู้เข้างาน ประกอบด้วย นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ท. พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของบริษัท การบินไทยฯ รวมถึงผู้แทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)

พล.อ.ไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงานว่า ปัญหาการทุจริตเราต้องอาศัยทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาสังคมและภาคเอกชนเข้ามาร่วมกันทำงานให้มาก เพราะคณะกรรมการหรือผู้ตรวจสอบส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นคนกลุ่มนี้มากกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งตนพูดเสมอว่าต้นเหตุสำคัญของปัญหาการทุจริตก็คือข้าราชการประจำและฝ่ายการเมือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคน เพียงแต่มันเป็นต้นเหตุของจุดเริ่มต้น อีกทั้ง ถ้าองค์ประกอบของหน่วยต่อต้านการทุจริตประกอบด้วยข้าราชการเพียงอย่างเดียว ความน่าเชื่อถือและความไว้เนื้อเชื่อใจมันคงไม่สำเร็จก็ได้ เราก็เลยพยายามที่จะขับเคลื่อนให้ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน เข้ามาร่วมกันหลายทางมากขึ้น

S__19177631

Advertisement

“ผมพยายามเน้นย้ำเสมอว่าเราทำงานเกี่ยวกับเรื่องทุจริต เพื่อสร้างระบบ สร้างการองค์กร แต่ไม่เอาไปผูกพันกับเรื่องการเมือง เราจะเห็นว่าหลายๆอย่างมันถูกใช้ไปบ้างเหมือนกัน ซึ่งเราก็ต้องยอมรับ ผมก็จึงเรียนว่าอย่าเอาผมไปผูกพัน อย่าเอาศอตช.ไปผูกพัน ไม่เช่นนั้นมันจะทำงานไม่ได้” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับในวันนี้จะเป็นการทำความเข้าใจร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนจะพูดถึงทิศทางและวิธีการทำงานว่าจะทำร่วมกันอย่างไร จะมีหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ ตนยังได้หารือกับเลขานุการ ศอตช. ว่าจะเชิญสรส.มาเป็นอนุกรรมการในศอตช.ด้วย ซึ่งเราจะต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่คงไม่ได้เชิญมากรรมการใหญ่ เพราะกรรมการใหญ่มันเป็นระเบียบจากสำนักนายกรัฐมนตรี แต่อนุกรรมการนั้น ประธานศอตช.สามารถแต่งตั้งได้ ซึ่งตนอยากให้สรส.เข้ามาร่วมกันทำงาน เพราะอยากเอาทุกภาคส่วนมาเป็นศอตช. อีกทั้ง ยังอยากเชิญสื่อมวลชนมาร่วมกันแลกเปลี่ยนและแนะนำการทำงานด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้ติดตามอ่านตามสื่อต่างๆที่เกี่ยวกับปัญหาการทุจริต อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังในวันนี้อยากจะได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการของการบินไทยมีอะไรที่จะเชื่อมโยงหรือตรวจสอบ เพราะการบินไทยก็ส่วนหนึ่งของ สรส. ซึ่งโครงการของการบินไทยก็มีการตั้งข้อสังเกตมากเกี่ยวกับควาไม่โปร่งใส จึงมีอะไรบ้างที่จะเชื่อมโยงและให้ศอตช.ตรวจสอบ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า อย่าไปเน้นถึงองค์กรการบินไทย เพราะวันนี้เรามาใช้สถานที่ของเขาในการจัดงานนี้เท่านั้น หากเราพูดถึงการทุจริตมันก็มีทุกกระทรวง แม้แต่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ก็มี แต่จะมีมากหรือน้อย มีโครงการใหญ่หรือไม่ ซึ่งยธ.ก็ไม่ได้มีโครงการใหญ่อะไรมากมาย และงบประมาณก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่ตนก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้เกิดขึ้น อีกทั้ง ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งก็ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่เขาก็ได้มีการตรวจสอบกันอยู่แล้ว ดังนั้น มันเป็นเรื่องของภาพรวมมากกว่าที่เราพยายามจะสร้างระบบให้องค์กรเข้ามาดูแลเรื่องนี้ จึงไม่อยากให้ไปเน้นที่องค์กร

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้าราชการที่ส่วนพัวพันกับการทุจริต ล็อตที่ 8 พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับรายชื่อข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับการทุจริตในล็อตที่ 8 นั้น ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการท้องถิ่น โดยหลังจากที่ศอตช.ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ก็จะส่งรายชื่อให้กับ มท. ซึ่งเป็นต้นสังกัดไปดำเนินการสอบสวน และเมื่อมท.สอบสวนเสร็จแล้วก็จะรายงานมายังศอตช.อีกครั้ง เพื่อให้ศอตช.ดำเนินการให้ โดยขณะนี้ตนได้รับการประสานจาก มท.แล้ว ซึ่งมีรายชื่อข้าราชการท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องพัวพันกับการทุจริต 70-80 คน ซึ่งมีจำนวนมากพอสมควร แต่ตนจำไม่ได้ว่ารายชื่อดังกล่าวสืบเนื่องมาจากล็อตที่เท่าไหร่ ก่อนที่จะมาเป็นรายชื่อล็อตที่ 8

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image