มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 20 ก.ย.2559
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันไม่มีผู้ประกอบการยื่นขออนุญาต เพื่อเปิดสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ใหม่เพิ่มเติมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่เกิน 45-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศลดลงตามไปด้วย
โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงยืนราคาในระดับต่ำไปอีกนานนั้น ทำให้ยอดขายก๊าซ LPG ผ่านสถานีบริการลดลงมาก โดยตัวเลขการใช้ก๊าซ LPG ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ปรับลดลงถึงร้อยละ 11 ฉะนั้นในช่วงปลายปีนี้อาจจะได้เห็นธุรกิจสถานีบริการก๊าซ LPG ที่จะเริ่มทยอยปิดตัวลงบ้าง
ด้านนายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด บริษัทในเครือเอสซี กรุ๊ป ผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันและก๊าซ LPG กล่าวว่า ค่อนข้างได้รับผลกระทบตั้งแต่ที่ภาครัฐยกเลิกชดเชยค่าขนส่งก๊าซไปยังภูมิภาค ส่งผลให้ลูกค้าเลือกที่จะรับก๊าซ LPG จากคลังในต่างจังหวัดแทนการจ้างรถยนต์ขนส่งจากคลังบ้านโรงโป๊ะ จังหวัดชลบุรี ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้ยอดขนส่งของบริษัทลดลงถึงร้อยละ 30
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานมีนโยบายที่จะปล่อยลอยตัวราคาก๊าซ LPG ในเร็ว ๆ นี้ ฉะนั้นจากนี้ราคาก๊าซ LPG จะไม่มีราคาถูกเหมือนในอดีตที่ภาครัฐสนับสนุนด้านราคา ฉะนั้นผู้บริโภคจะหันไปเติมน้ำมันเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันมีสถานีบริการก๊าซ LPG ทั่วประเทศ 1,869 แห่ง โดยมีผู้ค้ารายใหญ่คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด
แต่ขณะนี้ในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่มีสถานบริการรวม 23 แห่ง มีการประกาศขายกิจการเกว่าร้อยละ 50 จังหวัดอุบลราชธานีมีสถานีบริการรวม 28 แห่ง ปิดกิจการไปแล้ว 1 ราย รวมถึงศูนย์ติดตั้งถังก๊าซ LPG ก็ปิดกิจการด้วยเช่นกันเพราะไม่มีผู้ใช้บริการ
