“วีรชน”ยกบทความรัฐศาสตร์ “เสรีภาพเป็นผลิตผลหนึ่งของการคงไว้ซึ่งกฎระเบียบ”

วีรชนยกบทความปรากฎการณ์ประชาธิปไตยไร้เสรี ระบุหลายครั้งรบ.เลือกตั้งลืมข้อจำกัดตามรธน. ลิดรอนปชช. ถามกลับการเมืองไทยจะพ้นจากนักการเมืองที่ยังมีความเชื่อว่าผู้ชนะได้ทุกอย่างเมื่อไหร่

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้อ้างอิงบทความ “ปรากฏการณ์ประชาธิปไตยไร้เสรี” (The Rise of Illiberal Democracy) ของนาย Fareed Zakaria ที่ตีพิมพ์ ในวารสารการต่างประเทศ เมื่อ 20 ปีที่แล้วว่า ผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตว่า หลายครั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมักจะมองข้ามอำนาจอันจำกัดของตนตามรัฐธรรมนูญ และมีการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน บทความดังกล่าวกระตุ้นให้ขบคิดว่า การพัฒนาของประชาธิปไตยและเสรีนิยมภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่มีรูปแบบประชาธิปไตยแบบตะวันตก อาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายหลักการประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตย คือ จิตสำนึกหนึ่งของสังคมแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้นอาจจะผิดพลาดได้ หากตีความว่า ประชาธิปไตยคือธรรมาภิบาล ซึ่งนาย Zakaria ได้สรุปบทวิเคราะห์ของตนเองว่า “ประธานาธิบดี Woodrow Wilson นำอเมริกาเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ด้วยความท้าทายที่จะทำให้โลกปลอดภัยสำหรับประชาธิปไตย ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่ ภารกิจเรา คือ การทำให้ประชาธิปไตยปลอดภัยสำหรับโลก”

พล.ต.วีรชน กล่าวว่า 16 ปีหลังเข้าสู่สหัสวรรษใหม่นี้ ข้อคิดเห็นของนาย Zakaria อาจตรงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในหลายประเทศที่กำลังขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อวางพื้นฐาน ที่เห็นได้จากบทความ“ปรากฏการณ์ประชาธิปไตยไร้เสรี” (The Rise of Illiberal Democracy) คือ ปฏิกิริยาของนักการเมืองไทยเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญเพิ่งถูกเผยแพร่ ขั้วการเมืองไทยต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความเดือดเนื้อร้อนใจ เสมือนว่า ร่างรัฐธรรมนูญคือสาเหตุที่จะมาจำกัดบทบาทและอำนาจของพรรคการเมือง ทำให้นักการเมืองเสียประโยชน์ จากอำนาจทางการเมืองถูกลดลง

พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ขอให้สังคมได้ย้อนกลับไปพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาว่า ขณะนั้นนักการเมืองชุดเดียวกันนี้ใช่หรือไม่ ที่ไม่ยอมร่วมกันหาทางออกให้ประเทศทั้งๆ ที่มีโอกาส และหลายคน เหมือนจะลืมไปแล้วว่าเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้จัดให้มีเวทีหารือระหว่างกลุ่มการเมืองทุกฝ่าย และบางฝ่ายกลับปฏิเสธที่จะร่วมกันเจรจาหาข้อยุติ แต่ตอนนี้กลับมามีปฏิกิริยาต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อยากถามสังคมว่าการเมืองไทยจะไม่สามารถก้าวพ้นจากนักการเมืองที่ยังมีความเชื่อว่าผู้ชนะได้ทุกอย่างหรือ

Advertisement

พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ตามที่นาย Fareed Zakaria ได้กล่าวไว้ในหนังสือว่า ประชาธิปไตยเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ จิตสำนึกสาธารณะที่ทรงคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพทางเศรษฐกิจ หลักพลเมือง ศาสนา และความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย รวมถึงกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจรัฐ ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของไทยที่เพิ่งผ่านไป สะท้อนให้เห็นชัดถึงข้อสังเกตของนาย Zakaria ว่า รัฐบาลประชาธิปไตยมักจะมีแนวโน้มที่เชื่อว่าตนมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยการรวมศูนย์อำนาจ บ่อยครั้งด้วยวิธีการที่นอกเหนือรัฐธรรมนูญกลับสร้างผลลัพธ์ที่น่ากลัว ดังนั้น ปัญหาของประเทศไทยไม่ได้อยู่ที่ความเป็นประชาธิปไตย แต่เป็นการนำประชาธิปไตยไปใช้ในทางที่ผิดมากกว่า

ทั้งนี้ สังคมไทยสมควรจะได้รับโอกาสทดลองระบบการเลือกตั้งอีกครั้ง ไม่ว่าจะออกมาเป็นระบบแบบสัดส่วนหรือรูปแบบใดนักการเมืองจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศในตะวันตกและตะวันออก ที่สามารถอยู่ภายใต้ระบบการปกครองนี้เช่นกัน และสิ่งที่มีความสำคัญที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรมีระบบการเลือกตั้งอย่างไร คือ พลเมืองไทยทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นว่ารัฐธรรมนูญควรจะเป็นอย่างไร และจะดียิ่งไปกว่านั้นหากคนไทยสามารถร่วมกันแก้ปัญหาการเมืองที่หยุดรั้งประเทศไทยมาเป็นเวลายาวนาน เช่นเดียวกับการเรียกร้องเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรม ประสบการณ์จากประเทศต่างๆ ทำให้เห็นว่า หากปราศจากการพูดคุยกันถึงจิตสำนึกสาธารณะอย่างจริงจังแล้ว ประชาธิปไตยก็อาจนำมาซึ่งการแบ่งแยกสังคม และอาจทำให้สังคมทวีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงแทนที่ป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์

“ผมขอหยิบยกคำกล่าวของผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้กล่าวไว้ในการประชุมกับเอกอัครราชทูตต่างประเทศ โดยอ้างถึงคำพูดของนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ นายวิล ดูแรนต์ ที่ว่า “ในวัยหนุ่มของฉัน ฉันให้ความสำคัญต่ออิสรภาพและเมื่อวัยชราฉันให้ความสำคัญต่อความเป็นกฎระเบียบ สิ่งที่ฉันค้นพบที่ยิ่งใหญ่ คือ เสรีภาพเป็นผลิตผลหนึ่งของการคงไว้ซึ่งกฎระเบียบ” สังคมไทยอาจมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่คนไทยจะร่วมกันกำหนดอนาคตการเมืองของประเทศ และสิ่งที่นำมาสู่จุดนี้ คือ ความสงบ เรียบร้อยที่กลับคืนสู่ประเทศในขณะนี้ ซึ่งเราไม่ควรทิ้งโอกาสนี้ ที่จะค้นหาระบบประชาธิปไตยที่เหมาะกับประเทศไทย” รองโฆษกฯ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image