รวบอดีตพนง.แบงก์ทหารไทยนำข้อมูลลูกค้าทำบัตรเอทีเอ็มปลอมกดเงินหลายแสน

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. พร้อมด้วยนายลอเรนโซ่ ทัสซาน-บัสซัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ ทีเอ็มบีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แถลงผลการจับกุมนายดิเรก แก้วชูเชิด อายุ 50 ปี พร้อมของกลางเป็นบัตรเอทีเอ็มปลอม 6 ใบ เงินสดที่ได้จากการใช้บัตรเอทีเอ็มปลอม 20,000 บาท, เศษกระดาษบันทึกอักษรและตัวเลขคล้ายรหัส 1 แผ่น และจักรยานยนต์สีแดง 1คัน ในข้อหาใช้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือแปลงขึ้น

พล.ต.ต.สมหมายกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมรายการ ของธนาคารทหารไทย ว่าเมื่อช่วงประมาณปลายปี 2558 มีคนร้ายใช้บัตรเอทีเอ็มปลอมกดเงินสดจำนวนหลายครั้ง มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท จึงให้ฝ่ายสืบสวนทำการวิเคราะห์จนทราบว่าคนร้ายมักจะก่อเหตุในพื้นที่เขตดอนเมือง บางเขน รังสิต และบริเวณใกล้เคียง จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายมักจะสวมเสื้อคลุมสีเทา สวมหมวกนิรภัยสีดำ และใช้จักรยานยนต์สีแดงเป็นพาหนะ จนทราบว่าคนร้ายอาศัยอยู่บริเวณ ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง กทม.จึงได้ทำการสะกดรอยตามจนกระทั่งเมื่อช่วงเช้า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการซุ่มดูบริเวณที่พักอาศัย และสังเกตเห็นคนร้ายแต่งกายและขับขี่จักรยานยนต์สีแดงตามภาพกล้องวงจรปิดจึงได้สะกดรอยตามจนคนร้ายเข้ามากดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยลาดปลาเค้า 76 เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ธนาคารทหารไทย และไทยพาณิชย์ จนพบว่ารายการกดเงินดังกล่าวเป็นบัญชีธนาคารทหารไทย มีเจ้าของบัญชีเป็นชาวต่างชาติ สอบถามเจ้าของบัญชีแล้วไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยตามและแสดงตัวเข้าจับกุม นายดิเรก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารทหารไทยพร้อมตรวจค้นพบบัตรเอทีเอ็มปลอมจำนวนหนึ่งละกระดาษที่บันทึกอักษรและตัวเลขคล้ายรหัส 1แผ่น จึงได้ตรวจยึดเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.สมหมายกล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาได้เข้าทำงานกับธนาคารมากว่า 10 ปีแล้ว โดยมีพฤติการณ์จะนำข้อมูลของลูกค้ามาทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ เพื่อกดเงินไปใช้ ส่วนใหญ่จะเลือกผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะใช้เงินจำนวนมาก และไม่ค่อยมีการตรวจสอบบัญชี ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและกินเที่ยว จากการตรวจสอบความเสียหายตอนนี้มีมูลค่าหลายแสนบาท

นายลอเรนโซ่ ทัสซาน-บัสซัท กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายปี 2558 ได้มีลูกค้าของธนาคารมาร้องเรียนว่ามีการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชี โดยที่ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ จึงได้ให้ฝ่ายควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมรายการ ธนาคารทหารไทยตรวจสอบ พบว่ามีความผิดปกติจริงจึงได้ประสานกับทางตำรวจ บก.ปอศ.ให้ช่วยดำเนินการให้ อยากฝากไปถึงประชาชนทั่วไปว่าก่อนจะกดเงินสดควรดูที่เครื่องเอทีเอ็มก่อนว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ และอยากให้ลูกค้าทุกท่านสมัครใช่อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง,ไอโมบายแบงกิ้ง หรือ เอเอ็มเอส เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชี นอกจากนี้ภายในสิ้นปีนี้ ธนาคารทุกแห่งในประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนมาใช้บัตรแบบชิปการ์ดเพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูล

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image