เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีการทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ว่ามีการบริหารที่ขาดความรับผิดชอบและไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาฯ ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ไม่เคยชี้แจง แต่กลับมีการให้ข้อมูลเท็จ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งที่ตนให้ข้อมูลที่เกิดปัญหาไปจนเวลาล่วงผ่านไป 3 เดือนกว่าแล้ว อย่างกรณีการประปาส่วนภูมิภาคทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับผู้รับจ้างหลายสิบโครงการโดยไม่ส่งมอบพื้นที่ จนเป็นปัญหาที่บางโครงการทำแล้ว ก็สูบน้ำไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับการประปาฯ เนื่องจากท่อไปวางตากแดดตากฝนจนเสื่อมสภาพเพราะบางพื้นที่วางทิ้งไว้เฉยๆ นานกว่า 3 ปี ทั้งที่ผู้รับจ้างเบิกเงินไปแล้วแต่ต้องหยุดชะงักกลางคันจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ เช่น โครงการที่สามพรานก็สูญงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท
นายวิลาศกล่าวต่อว่า มีคำถามที่ว่าปัญหาต่างๆ เหล่านี้ทำให้สูญเงินไปแล้วเท่าไหร่ เพราะมีประมาณ 80 โครงการที่มีปัญหาในลักษณะนี้ ซึ่งตนคิดว่ามีเงินที่ค้างอยู่ส่วนนี้ราว 5,000 ล้านบาท และเชื่อว่าปล่อยไปเช่นนี้ไม่เกิน 2 ปี การประปาฯจะขาดสภาพคล่องทางการเงิน หากการประปาฯมีการส่งมอบพื้นที่ให้เรียบร้อยปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการล็อกสเปกเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนที่ผูกขาดการรับงานกับการประปาฯ ซึ่งในขณะนี้ก็ยังรับงานอยู่ แม้ว่าจะมีการตั้งกรรมการสอบภายใน แต่ผลออกมากลับบอกว่าไม่มีความผิด ดังนั้น ตนจะร้องต่อ สตง.และ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงคณะกรรมการของการประปาฯว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ อีกทั้งจะยื่นเรื่องให้ สตง.และ ป.ป.ช.สอบโครงการต่างๆ ที่เป็นปัญหาทุกสัปดาห์รวม 15 สัปดาห์ สัปดาห์ละสองเรื่องรวมทั้งหมด 30 เรื่อง
นายวิลาศกล่าวต่อว่า ตนขอยกตัวอย่าง 5 โครงการที่มีปัญหาไม่ขออนุญาตก่อสร้างและไม่ส่งมอบพื้นที่ ประกอบด้วย 1.โรงสูบน้ำที่บ้านโป่งงบประมาณ 88 ล้านบาท สร้างแล้วสูบน้ำไม่ได้ ขณะนี้มีการก่อสร้างโดยใช้งบเพิ่มเติมอีก 4.85 ล้านบาท ขออนุญาตกรมเจ้าท่าเดือนเมษายนปี 2557 แต่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมอีก ซึ่งในส่วนนี้มีการยื่นขออนุญาตวันที่ 8 กันยายน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับอนุญาต ตนจึงมีความเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุทางน้ำเช่นเดียวกับที่วัดสนามไชยที่มีผู้เสียชีวิตถึง 28 ศพ ทั้งนี้ ถ้ามีอุบัติเหตุในอนาคตให้จำด้วยว่าใครทำ สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความวิปริตทำแล้วไม่ขออนุญาต ซึ่งตนทราบมาว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่อมีการเซ็นสัญญาจะได้เงินล่วงหน้า 12%
นายวิลาสกล่าวอีกว่า โครงการที่ 2.โครงการขยายน้ำประปาไปตำบลบ้านทาน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ขอเงินอุดหนุนจาก อบต. 2 ล้านบาท แต่เมื่อมีการดำเนินการมีการวางท่อประมาณ 1.4 ล้าน ที่เหลือไปซื้อมิเตอร์ 402 ตัว ประชาชนเสียเงินเครื่องละ 4,135 บาท จึงขอให้ไปสอบด่วนเพราะมีการดำเนินการที่ผิดระเบียบ เนื่องจากต้องใช้เงินเพื่อวางท่อแต่กลับนำไปซื้อมิเตอร์ 3.โครงการจ่ายน้ำประปาที่ จ.สมุทรสาคร วงเงิน 31 ล้านบาท ไม่ขออนุญาตกรมทางหลวงชนบททำให้ดำเนินการไม่ได้ 4.โครงการจ่ายน้ำบริเวณถนนพระรามสองแยกเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร มีการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าแต่กลับไปปรับเงินผู้รับเหมาก่อสร้าง และ 5.โครงการก่อสร้างวางท่อที่สุพรรณบุรี ตำบลท่าสะเด็ด งบประมาณ 12.4 ล้าน มีปัญหาไม่ได้รับอนุญาตจาก อบจ.และกรมชลประทาน
