อนุมัติแผนสนามบินหาดใหญ่ ท่าอากาศยานไทยเล็งขยายรับผู้โดยสาร 10 ล้าน

รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. แจ้งว่า ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ตามที่ ทอท.เสนอ หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าขีดความสามารถที่รองรับได้ 2.5 ล้านคนต่อปีจะไม่เพียงพอในการให้บริการในอนาคต ที่คาดว่าในปี 2563 จะมีเที่ยวบินประมาณ 34,406 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร 5.1 ล้านคน ปี 2568 มีเที่ยวบินประมาณ 44,735 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร 6.6 ล้านคน ปี 2573 มีเที่ยวบินประมาณ 56,444 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร 8.4 ล้านคน และในปี 2578 จะมีเที่ยวบิน 66,636 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร 9.9 ล้านคน

ทั้งนี้ แผนแม่บทดังกล่าวแบ่งการพัฒนาเป็น 2 ระยะ มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 20 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2559-2578 โดยระยะที่ 1 ปี 2559-2568 วงเงินลงทุนประมาณ 9,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 8.5 ล้านคนต่อปี สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศได้ไม่น้อยกว่าปี 2573 เช่น การขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศตะวันตกเพื่อให้มีหลุมจอดเพิ่มขึ้น รวมเป็น 18 หลุมจอด กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ให้สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 6 ล้านคนต่อปี และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม ก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ให้สามารถรองรับรถยนต์ได้ไม่น้อยกว่า 1,500 คัน เป็นต้น

ส่วนระยะที่ 2 ปี 2569-2573 วงเงินลงทุนประมาณ 5,600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 10 ล้านคนต่อปี สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศได้ไม่น้อยกว่าปี 2578 เช่น การขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศตะวันออกจาก 18 หลุมจอด เป็น 25 หลุมจอด ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารที่ก่อสร้างไว้ในระยะที่ 1 ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 10 ล้านคนต่อปี และรื้อถอนอาคารผู้โดยสารหลังเดิม โดยพื้นที่ที่ได้จากการรื้อถอนจะสำรองไว้สำหรับการขยายอาคารผู้โดยสารต่อไปในอนาคต ขยายอาคารจอดรถยนต์ให้สามารถรองรับการใช้งานได้เพิ่มอีก 2,000 คัน รวมการก่อสร้างทั้งสองระยะแล้วจะสามารถรองรับได้เป็น 3,500 คัน เป็นต้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 จากนั้นจึงเริ่มงานก่อสร้างระยะที่ 1 ในปี 2563 โดยระหว่างที่ยังไม่ได้ดำเนินโครงการ ในปี 2560 จะมีการก่อสร้างอาคารสำนักงาน และจะย้ายสำนักงานปัจจุบันซึ่งอยู่ภายในอาคารผู้โดยสารไปยังอาคารที่ก่อสร้างใหม่ รวมทั้งจะปรับปรุงเพิ่มพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความแออัดได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image