“ประธาน ป.ป.ช.” ชี้ ไม่หนักใจปมสอบลูก-เมีย “บิ๊กติ๊ก” ยันเร่งรัดคดีทุกฝ่าย ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ คดี “ปู” ก็เช่นกัน
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 26 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าคดีลูกชายและภริยาของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เมื่อมีคนมาร้องทางเจ้าหน้าที่ก็คงจะต้องไปตรวจสอบข้อมูล หรือที่เราเรียกว่าขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เวลาคนมากล่าวหาอะไรก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่า จะให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการไต่สวนข้อเท็จจริงเท่าไหร่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีอะไรบ้าง มีใครบ้างที่เราต้องไปตรวจสอบ และมีพยานเอกสารอะไรบ้าง เป็นขึ้นตอนปกติที่เราต้องทำ
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่เพราะคนที่กำลังสอบเป็นน้องชายนายกฯ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ไม่หนักใจ แต่ต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ เพราะสังคมเฝ้ามองอยู่ ทั้งนี้ระยะเวลาในการดำเนินการคงตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเรื่องมีอะไรบ้าง ถ้ามีหลายประเด็นก็อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อย
เมื่อถามว่า ทางสำนักเลขาธิการ ป.ป.ช.ได้รายงานเรื่องนี้เข้ามายังกรรมการ ป.ป.ช.หรือยัง พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ยังเลยครับ แต่เมื่อสำนักเลขาฯรับเรื่องก็ต้องมีการแสวงหาข้อเท็จจริงก่อน ยังไม่ต้องรายงานคณะกรรมการ จะรายงานต่อเมื่อผลการแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าจะรับเรื่องไว้หรือไม่รับเรื่องไว้
เมื่อถามต่อว่า เรื่องนี้สังคมให้ความสนใจค่อนข้างมาก ป.ป.ช.จะมีการเร่งรัดให้เกิดความชัดเจนหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน ทุกเรื่องมีความสำคัญหมด คงไม่ล่าช้า เพราะทุกเรื่อง ป.ป.ช.ก็เร่งหมด แต่ถ้าเร่งรัดมากๆ ก็เป็นประเด็นขึ้นมาว่าไปเลือกทำตรงนั้นตรงนี้ ความจริงเราเร่งทุกเรื่อง และขอเรียนพี่น้องประชาชนเลยว่าตอนนี้เรามีนโยบายว่า เรื่องที่ค้างต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และคดีใหม่ต้องภายใน 1 ปี
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าคดีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาเรื่อยๆ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ไม่ใช่หรอก ทุกๆ เรื่อง แต่ละเรื่องเป็นเรื่องเก่าบ้าง เมื่อเราไปเร่งรัด เจ้าหน้าที่เขาก็จะดูว่าเรื่องไหนที่เขาทำใกล้เสร็จแล้ว เขาก็ทำมาให้ตรวจ เราก็ต้องตรวจเพื่อส่งให้คณะกรรมการพิจารณา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ค้างเก่า ทั้งนี้ ก็มีคดีที่เราพิจารณาแล้วให้ข้อกล่าวหาตกไปเยอะพอสมควร แต่หากมีมูลก็ต้องยืนยันได้ว่าผิดอะไร สามารถส่งอัยการเพื่อให้อัยการพิจารณาสำนวนต่อไป
เมื่อถามว่า ถึงขนาดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาโอดว่านั่งอยู่เฉยๆ ก็โดนถึง 15 คดี พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า อาจจะเป็นเพราะช่วงและจังหวะที่เรื่องต่างๆ ของท่านที่อยู่ในสำนักไต่สวนคดีนักการเมืองที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ และเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี โดยเราก็เร่งหมดทุกสำนักแหละ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบทีมทนายความร้องคัดค้านการตั้ง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯถึง 6 คดี เหตุ น.ส.สุภาเป็นคู่ขัดแย้ง พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า หลายๆ กรณีคณะกรรมการก็เอาขึ้นมาวินิจฉัยตามที่มีการคัดค้าน และยกคำร้องไปก็หลายเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ท่านก็มีสปิริตว่าท่านเข้าไปเกี่ยวข้องในบริบทตอนเป็นรองปลัดอยู่ ท่านก็ขอถอนตัว ทั้งนี้ ขอเรียนว่าเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตามกฎหมายหากคณะกรรมการป.ป.ช.ท่านใดไปเกี่ยวข้อง กฎหมายห้ามอยู่แล้ว ถ้าเข้าไปทำก็จะเท่ากับประพฤติมิชอบ ดังนั้นไม่กล้าหรอกเพราะกฎหมายห้ามอยู่
