เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำหลักฐานและภาพถ่ายวงจรปิด เข้าร้องเรียน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กรณีมีเศรษฐีนีที่ดินย่านฝั่งธนบุรี วัย 82 ปี ถูกลูกเลี้ยงสมคบกับพี่เลี้ยงอีก2คน บังคับให้กินยากล่อมประสาทเกินขนาดจนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลธนบุรี เพื่อไม่ให้ครองสติได้แล้วบังคับให้ไปธนาคารปิดบัญชีเงินฝากทั้งหมดกว่า 20 ล้านบาท นำเงินดังกล่าวเข้าบัญชีของลูกเลี้ยงที่ธนาคารแห่งหนึ่งย่านกระทุ่มแบน
นายสงกานต์ กล่าวว่าเหตุเกิดจากหัวหน้าพยาบาลได้แจ้งตนให้เข้าช่วยเหลือเศรษฐีนีรายนี้ จากการสอบถามถึงลูกเลี้ยงคนดังกล่าว เศรษฐีนีเปิดเผยว่าได้ขอมาเลี้ยงจากโรงพยาบาล ด้วยความที่รักเหมือนลูกในไส้ เคยกล่าวว่าหากวันนึงเป็นอะไรไปก็จะยกทรัพย์สมบัติให้ แต่หลังจากนั้นลูกเลี้ยงมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง โดยไม่ยอมให้ตนพบผู้คนและพยายามให้โอนทรัพย์สินตลอดเวลา จนกระทั่งวันเกิดเหตุเมื่อปี 2558 มีการโอนเงินปิดบัญชี และทางหัวหน้าพยาบาลได้เดินทางไปด้วยและได้พบผิดความปกติการปิดบัญชีต้องลงลายมือแต่กลับให้ปั๊มลายนิ้วมือแทน ซึ่งเศรษฐีนีได้ให้หัวหน้าพยาบาลร่างจดหมายและเซ็นชื่อกำกับว่าหากลูกเลี้ยงยอมคืนเงินที่เคยถอนไปกว่า 20ล้าน ก็จะยกเงินให้จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งต่อมาหัวหน้าพยาบาลได้ถูกคนร้ายทุบรถ นำกระเป๋าไปโดยคนร้ายเข้าใจผิดว่าเป็นกระเป๋าที่เก็บเอกสาร ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 27 fyopkpoที่ผ่านมา ลูกเลี้ยงได้ส่งกลุ่มนักเลงพาตัวเศรษฐีนีออกจากโรงพยาบาลไปบ้านพักย่านธรรมศาลา จากการตรวจสอบพบว่าลูกเลี้ยงรายนี้เคยมีคดีของ สน.ท่าพระเหตุจ้างวานฆ่าสามี รับโทษจำคุก 8 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมา ตนเป็นห่วงในสวัสดิภาพจึงได้ประสานไปทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อเข้าช่วยเหลือ
ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบหากพบว่ามีการกระทำผิดทางอาญา พร้อมสั่งพนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินการ เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย และในเวลา 15.00 น. นายสงกานต์ พร้อมด้วยเลขาฯ พม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปตรวจสอบบ้านพักของลูกเลี้ยงคนดังกล่าวย่านธรรมศาลา
