นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการเดินทางไปประชุมที่ฮาวายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ว่าในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีการทุจริตในการใช้เงิน และไม่ได้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน เพราะเป็นการเดินทางตามคำเชิญของสหรัฐ เท่าที่ดูค่าใช้จ่ายในการเดินทางประเมินไว้กว่า 20 ล้านบาท ในชั้นนี้คงไม่มีอะไรเกินเหมาะสม เพราะถ้าไม่เช่าเหมาลำ การเดินทางระดับวีไอพีต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5-6 แสนบาทต่อคน และเมื่อคิดจำนวนคนเดินทาง 38 คน เป็นค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกับการเช่าเหมาลำ และหากเดินทางแบบไม่เช่าเหมาลำเสียเวลาเดินทางประมาณ 16-33 ชั่วโมง เนื่องจากต้องต่อเครื่องบินหลายรอบ เพราะไม่มีบินตรง หรือถ้าบินโดยไม่ใช้สายการบินแห่งชาติคงไม่เหมาะสม เพราะการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นตัวแทนประเทศ และในการไปประชุมต้องมีการต้อนรับจากเจ้าภาพ ถ้าลงจากเครื่องบินแล้วไม่ใช่ของสายการบินของไทย ในทางการทูตคงดูไม่ดี
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า สตง.ได้เข้าไปดูรายชื่อผู้เดินทาง 38 รายแล้ว พบว่าไม่ตรงกับรายชื่อที่หลุดออกมาตามสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ แต่ สตง.คงไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อที่มีในมือให้ทราบได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของความมั่นคง คงไม่สมควรนำไปเผยแพร่ แต่ยืนยันได้ว่าไม่มีชื่อ พ.ต.หญิงชลรัศมี งาทวีสุข และไม่มีรายชื่อเอกชนจากซีพี ส่วนที่ว่ามีรายชื่อแล้วไม่เดินทางหรือไม่นั้น คงไม่ใช่หน้าที่ สตง.ที่จะไปตรวจสอบ เพราะ สตง.จะดูเฉพาะรายชื่อที่มีการเดินทางว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมหรือไม่ เท่าที่ดูทั้ง 38 คนที่เดินทางไปนั้น เป็นบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เป็นคนที่มียศ ตำแหน่งทางทหารหรือตำรวจ มีเพียง 4 คนที่ไม่มียศ คือนักข่าวช่อง 5 ช่างภาพช่อง 5 และเจ้าหน้าที่สำนักนายกฯ
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า สำหรับค่าใช้จ่ายที่การบินไทยคิดจากเช่าเหมาลำครั้งนี้เมื่อเทียบกับการทริปเดินทางที่ผ่านมาของผู้นำรัฐบาล ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ การบินไทยคิดค่าใช้จ่ายในอัตราราชการ ส่วนค่าอาหาร 6 แสนบาทนั้น เป็นการประเมินไว้เบื้องต้น เท่าที่ดูพบว่ามีการเสิร์ฟไข่ปลาคาเวียร์ สำหรับผู้โดยสาร 9 คนที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส จริง ซึ่งก็คงแล้วแต่ผู้โดยสารว่าจะปฏิเสธจะไม่รับประทานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเสิร์ฟไข่ปลาคาเวียร์นั้นเป็นมาตรฐานการบริการของสายการบินให้บริการชั้นเฟิร์สคลาสอยู่แล้ว แม้จะไม่รับประทานถูกคิดค่าใช้จ่าย เหมือนกรณีไปนั่งรถ บขส.แล้วเสิร์ฟน้ำ ถ้าผู้โดยสารไม่อยากได้น้ำ แล้วปฏิเสธไป คงไม่สามารถลดค่าตั๋วได้
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า สตง.จะเสนอข้อมูลทั้งหมดไปยังคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ในวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะสามารถบรรจุวาระจรเข้าที่ประชุม คตง.ในวันอังคารที่ 11 ตุลาคม เพื่อให้ คตง.วินิจฉัยว่าใช้งบประมาณตรงนี้เหมาะสมหรือไม่ เพราะผู้ว่าการ สตง.คงไม่ไปฟันธง เนื่องจากที่ผ่านมาถูกวิจารณ์ว่าพิจารณาเร็วไป โดยการเสนอข้อมูลไป คตง. จะไม่รวมกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงที่การบินไทยจะเรียกเก็บ เพราะขณะนี้การบินไทยยังไม่วางบิล เนื่องจากต้องรอค่าใช้จ่ายจากต่างประเทศ อาทิ ค่าธรรมเนียมบินผ่านประเทศต่าง ค่าอาหารจากฮาวาย อย่างไรก็ตาม การบินไทยระบุว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะไม่เกิน 20.9 ล้านบาท และหลังจากนี้หากมีข้อมูลใหม่ๆ สตง.อาจนำมาพิจารณาเพิ่มเติมได้ การพิจารณาตรงนี้ไม่ได้เป็นการเอาใจใคร และไม่ได้ทำเพื่อความสะใจของใคร แต่เป็นการพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
