สนช.รับหลักการร่างกม.ยาเสพติด เปิดช่องให้ผู้ต้องหาพิสูจน์ความจริง

สนช.รับหลักการร่างกม.ยาเสพติด เปิดช่องให้ผู้ต้องหาพิสูจน์ความจริง

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานได้ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ยาเสพติตให้โทษ(ฉบับที่…) พ.ศ…. ที่ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสนช.กับคณะเป็นผู้เสนอ วาระแรกด้วยคะแนน 175 งดออกเสียง 4 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาต่อไป โดยพล.ร.อ.ศิษฐวัชร ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันมีบทบัญญํติบางส่วนกำหนดว่าผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติให้โทษประเภท 1,2 ,4 ,5 โดยมียาเสพติดให้โทษเกินปริมาณที่กำหนดให้ถือว่าเป็นเด็ดขาดว่ากระทำเพื่อจำหน่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้พิสูจน์ความจริงในคดี ดังนั้นจึงควรแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติให้มีลักษณะเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเพื่อให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีโอกาสพิสูจน์ความจริงได้ นอกจากนี้ยังปรับปรุงอัตราโทษสำหรับความผิดเกี่ยวกับการผลิต นำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดประเภท 1 ที่กำหนดโทษให้จำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งล้านถึง 5 ล้านบาทหรือประหารชีวิตให้การลงโทษผู้กระทำผิดมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทางครม.ได้ขอรับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ไปพิจารณา โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เชิญตัวแทนกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้แสดงความเห็นโดยเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นี้พร้อมให้ข้อสังเกตต่อการร่างฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสนช.ได้อภิปรายแสดงความเห็นสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างกว้างขวาง พร้อมตั้งข้อสังเกตต่อการปรับปรุงแก้อัตราโทษ โดย พล.อ.สิงห์ศึก สิงไพร สมาชิกสนช. อภิปรายให้ข้อสังเกตว่า การกำหนดโทษให้เบาลงหรือให้สิทธิ์ผู้ต้องได้พิสูจน์ เป็นความปราณีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่สงสัยว่าเหตุใดจึงต้องกำหนดโทษที่เบาลง ทั้งนี้ นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง สมาชิกสนช. ในฐานะผู้เสนอร่างพ.ร.บ. ชี้แจงว่า เดิมมีคำพิพากษาศาลฏีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเดินทางออกไปยังประเทศลาวเดินทางกลับมาไทยและนำยาบ้าจำนวน 1.5 เม็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่าเป็นการนำเข้า ศาลก็ไม่สามารถใช้ดุลยพินิจเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากจำคุกตลอดชีวิต แม้จะรับสารภาพก็จำคุก 25 ปี ซึ่งกฎหมายไม่ได้คำนึงถึงการนำเข้ามาเพื่ออะไร ดังนั้นการแก้ไขกฎหมายจึงซอยฐานความผิดให้ชัดเจนขึ้น โดยพิจารณาถึงพฤติการณ์การทำผิด เพื่อมีการกำหนดโทษให้ได้สัดส่วนกับการกระทำผิดของจำเลย ส่วนการแก้ให้กฎหมายเบาลงนั้นเป็นการเพิ่มความเป็นธรรมให้สังคมมากขึ้น และให้ศาลใช้ดุลยพินิจให้เหมาะสมกับสัดส่วนในการกระทำความผิด ซึ่งไมได้แก้ไขโทษขั้นสูงหรือขั้นต่ำเลย เพียงแต่ซอยฐานความผิดให้ชัดเจนชึ้น เนื่องจากการกระทำความผิดของยาเสพติดมีหลายประเภท การกำหนดพฤติการณ์ในการกระทำความผิดโดยถือปริมาณยาเสพติดให้โทษเป็นหลัก ทั้งๆที่ไม่มีไว้เพื่อจำหน่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image