วันที่ 9 ตุลาคม เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงเร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาล่าสุดวัดได้ 16.67 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนวัดได้ 15.21 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มการระบายน้ำขึ้นจากเดิม 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,213 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทานได้ออกหนังสือแจ้งเตือนว่า เขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาล่าสุดวันที่ 9 ตุลาคม 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเกินศักยภาพที่ลำน้ำจะรับได้ จึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำไปที่ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.อินทร์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อ.บางบาล และ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงบริเวณท้ายแม่น้ำน้อย ที่จะมีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 50-60 ซม.ในวันนี้ ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย จึงควรย้ายปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
รายงานระบุว่า หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำไปอยู่ที่อัตรา 2,213 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ที่ล่าสุดอยู่ที่อัตรา 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจากการระบายน้ำเพิ่มส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนวัดได้ 15.21 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพิ่มขึ้น 40 ซม. ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนใน 3 ตำบลของ อ.สรรพยา ประกอบด้วย ต.ตะหลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. และมีระดับสูงกว่า 1 เมตร ในหลายๆ จุดที่เป็นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง
ด้านนายมณฑล ตัั้งทวี นายกเทศมนตรีตำบลตะหลุกและประชาชนได้ออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทราย เพื่อทำคันกันน้ำ โดยเฉพาะที่พื้นที่หมู่ 1, 2, 3 ที่น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าชุมชน โดยทางเทศบาลมีการเตรียมกรอกกระสอบทรายไว้ 10,000 กระสอบ เพื่อทำคันกั้นน้ำใน 3 หมู่บ้านระยะทางยาว 4 กม. ขณะที่ประชาชนบางส่วนก็เร่งขนของหนีน้ำไปฝากไว้บ้านญาติที่อยู่ที่สูงกว่า
นอกจากนี้ ชาวบ้านหลายรายเปิดเผยว่า น้ำขึ้นในรอบนี้มีระดับที่สูงที่สุดของปีนี้ ซึ่งถ้าเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มไปถึง 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ริมตลิ่งมากกว่า 50 หลัง คงจะต้องอพยพไปอยู่อาศัยริมถนนหรือศูนย์อพยพของทางราชการชั่วคราวจนกว่าน้ำจะลดลง
