‘ขวัญ’ เปิดใจน้ำตาคลอดราม่าเรื่องแม่ ย้ำกลับบ้านทุกวัน ไม่เคยมีทรัพย์สินตัวเอง โบ้ยเรื่องท้อง

กำลังเป็นประเด็นที่สังคมจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับเรื่องราวระหว่าง ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ และคุณแม่ปราณี ที่ก่อนหน้านี้คุณแม่ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อน้อยใจในอินสตาแกรมว่าติดต่อลูกสาวไม่ได้จึงต้องอาศัยโพสต์ผ่านอินสตาแกรม (อ่านเพิ่มเติม : ‘แม่ขวัญ’ เปิดใจ แจงไม่ได้โรคจิต คิดประจานลูก แต่ขอความเห็นใจ ‘คนใกล้ตัว’ อย่าลืมว่าขวัญยังมีแม่อยู่)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ขวัญ อุษามณี ได้มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์การกุศลในงานแสดงดอกไม้นานาชาติประจำปีครั้งที่ 30 ณ บ้านปาร์ค นายเลิศ พร้อมกับเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวโดยมีน้ำคลอตลอด แบบคำต่อคำดังนี้

“เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างที่ขวัญเคยอยู่เคยเป็นละกันค่ะว่าเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัวขวัญขออนุญาตเก็บไว้ข้างใน บางอย่างถ้าเกิดจะชี้แจงไปมันมีทั้งเรื่องจริง และเรื่องไม่จริงปนกัน ขวัญไม่เห็นประโยชน์ของการมาชี้แจงเรื่องนี้ มันเจ็บกันหมด มันเป็นเรื่องของในบ้าน ขวัญเจ็บแล้วคือเราไม่ต้องมานั่งชี้แจงว่าคุณแม่ พี่สาวขวัญก็คือเลือดเนื้อจะไม่มีคุณพ่อ เราจะไม่มีหัวหน้าครอบครัว ตอนนี้ขวัญก็ถือเป็นหัวหน้าครอบครัวคนหนึ่ง รับผิดชอบทุกอย่าง เพราะฉะนั้นขวัญไม่ขอพูดและจบประเด็นนี้ ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ขวัญตระหนักถึงสิ่งที่คุณแม่สร้างขวัญมา เขาก็ทำร้ายเขาได้ ไม่ว่าคุณแม่จะทำยังไงขวัญเป็นลูก ขวัญไม่มีสิทธิ์โกรธอยู่แล้วเพราะเราอยู่ในสังคมไทย และเราก็อยู่ในครอบครัวไทย”

“ที่ขวัญมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะมีผลอะไรตอบรับมาขวัญยังยืนหยัดว่าขวัญทำได้แล้วขวัญยังอยู่ได้ แล้วขวัญไม่ใช่เจ้าหญิงอย่างที่คนอื่นคิด แต่ขวัญก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดว่ามีใครมีใครมาตราหน้าว่าเธอไม่ดี เธอมันเลว เพราะขวัญมั้นใจว่าสิ่งที่ขวัญทำมาตั้งแต่เด็กมันพิสูจน์แล้วก็ปกป้องตัวขวัญหลายอย่างโดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอะไรเลย กับครอบครัวขวัญยังไงเราก็ต้องเกรงใจญาติเราด้วย ถึงคุณพ่อไม่อยู่แต่ขวัญยังอายแทนคุณพ่ออยู่นะ”

Advertisement

(ได้เจอคุณแม่บ้างไหม) “ขวัญกลับบ้านทุกวันนะ”

“ขวัญกลับบ้านทุกวัน แต่ยอมรับว่าบ้านเรามีปัญหา ด้วยที่ผ่านมาผิดพลาดเรื่องงานกันบ่อย ขวัญอยากขึ้นมารับงานด้วยตัวเองจริงๆ อยากเรียนรู้ ขวัญทำงานมาถึงทุกวันนีไม่มีสินทรัพย์อะไรที่เป็นส่วนตัวของขวัญ ขวัญรู้สึกขวัญเติบโตมา ขวัญต้องมีครอบครัวต้องมีลูก แต่ทุกวันนี้สินทรัพย์ขวัญคือไม่มีอะไรเลย ขวัญขอทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าขวัญจะลุกขึ้นมารับงานเองแลัวไม่แบ่งเงิน หรือไม่ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวที่เคยทำมา ขวัญยังทำ และขวัญทำได้ ขวัญยืนยันว่าขวัญจะเป็นแบบเดิม เพียงแต่ว่าทุกคนต้องให้เวลาขวัญพิสูจน์ ณ จุดนนี้เป็นช่วงการพลิกเปลี่ยนแปลงในครอบครัวที่จะทำให้มีความเป็นมืออาชีพ”

“ขวัญอยากให้คุณแม่พักอยู่สบายๆ เพราะว่าที่บ้านขวัญก็มีแค่คุณแม่คนเดียว ขวัญไม่ตองการใช้แรงงานคุณแม่ไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อย ขวัญเลี้ยงได้เหมือนกับตั้งแต่เด็กที่ขวัญทำมาตั้งแต่เด็ก เลี้ยงดูคุณแม่ ดูแลพี่สาว เราเกิดในครอบครัวตำรวจอยู่แฟลตคุณพ่อเป็นนายดาบ เงินเดือนเท่าไหร่เอง แต่ครอบครัวเราคือช่วยกันไม่มีการแบ่งแยกว่าเงินใครเป็นเงินใคร ขวัญทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ”

(ข่าวไปเชื่อคนอื่น) “ไม่ขอพูดถึงบุคคลที่สาม เพราะยังไงเขาก็คือคนนอก เขาไม่ใช่คนในครอยครัวของขวัญ ปัญหาของขวัญที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นมาเนื่องๆ อยู่แล้ว ไม่กล้าที่จะทำอะไรให้มันดีที่สุด แม่ขวัญขวัญรัก อยากว่า อยากเตือนกันแค่เราสองคน ไม่ต้องการให้ใครหรือสังคมมาว่า แม่ใครใครก็รัก”

“ขวัญคุยกัยคุณแม่คนเดียว พิมพ์คุยกัน การพิมพ์คุยกันมันไตร่ตรอง ขวัญไม่อยากเจ็บช้ำแล้ว”

(หลังจากคุยแล้วดีขึ่นไหม) “ขวัญพยายามทำให้มันดีขึ้น คือคุณแม่ขวัญเปลี่ยนไม่ได้ ขวัญทำได้อย่างเดียวในฐานะลูกคือพิสูจน์ตัวเอง ด้วยความที่ว่าขวัญเป็นลูกคนเล็กคนก็มองว่าขวัญเด็ก แต่ขวัญโตแล้ว”

(แม่อยากเป็นผู้จัดการอยู่) “ขวัญไม่อยากให้คุณแม่คิดมากกับเรืองเงิน ตอนนี้มันพังไปเพราะอำนาจเรื่องเงินมันมาทำลายสถาบันของครอบครัว (เสียงสั่น) มันทรมานเกินไป”

“ขวัญเพิ่งเริ่มต้นรับงานเองเมื่อต้นเดือน เงินทุกบาททุกสตางค์ขวัญให้คุณแม่หมดตั้งแต่ขวัญเกิดมาเลย ขวัญได้เงินเดือน 4 หมื่น ปีที่แล้วขวัญได้เงินเดือน 3 หมื่น ปีนี้มาขวัญก็พยายามทำ อย่าง ‘ลายูซี่ บาย อุษามณี’ ที่ขวัญสร้างมาขวัญก็ยกให้พี่แก้วไปแล้ว เพราะฉะนั้นขวัญก็อยากมีอะไรที่เป็นตัวของขวัญเองบ้าง ขวัญก็พยายามจะสร้างจากสิ่งที่ขวัญพยายามเก็บ”

(อยากจะทำธุรกิจลิปสติก แต่พี่สาวบอกว่าไม่เท่าไหร่ แต่จะลงทุนเป็นล้าน) “ไม่มีใครรู้เท่าคนที่ตั้งใจจะทำ แล้วมันคือเงินของขวัญ ขวัญขอมาตั้งทุน ไม่ให้ขวัญไม่เป็นไร ขวัญเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ขวัญเก็บเอง (ร้องไห้)”

(กระแสบอกว่าเห็นแฟนดีกว่าแม่) “ทุกคนรักคุณแม่หมด แล้วก็บุคคลที่สามเขาไม่เคยทำร้ายขวัญตั้งแต่ขวัญเด็กแล้วทำไมขวัญต้องไม่รู้สึกดีกับพี่เขา พี่เขาเป็นคน เขาไม่เคยทำร้ายขวัญ”

(บอกคุณแม่แล้วใช่ไหมว่าจะส่งเงินให้เหมือนเดิม) “ขวัญคุยกับคุณแม่ตั้งแต่ก่อนพี่แก้ว (พี่สาว) จะกลับมา บอกเขาแล้วว่าในเมื่อคุณแม่ไม่ให้ทุนไม่เป็นไร ขวัญจะเก็บเงินแบ่งคนละครึ่ง แต่ก็เข้าใจว่าคุณแม่จะห่วงว่าจะเอาเงินไปทำนู่นทำนี่ทำนั่น ไม่มีใครรู้ความตั้งใจเท่าตัวเรา”

(คิดไหมว่าจะถึงจุดที่ต้องเลือกคุณแม่หรือพี่กอล์ฟ) “ขวัญว่าแม่คงไม่ทำร้ายหัวใจขวัญขนาดนั้นนะคะ”

(มีข่าวว่ามีน้อง) “มีน้องเหรอคะ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ มีมั้งค่ะ คือข่าวมันหลุดมาจากไหนไปถามคนนั่นเลยค่ะว่าขวัญท้องหรือขวัญไม่ท้อง”

(ยืนยันหน่อย) “อันนี้ต้องไปถามคุณแม่นะคะ ขวัญไม่รู้ว่าขวัญจะยืนยันอะไรยังไง ข่าวทุกอย่างที่มันออกไป ขวัญไม่ได้เป็นคนพูด ไม่ได้เป็นคนบอก ถ้ามีเรื่องที่น่ายินดีขนาดนั้น ขวัญเป็นคนบอกเอง”

(อยากบอกอะไรคนที่ให้กำลังใจเรา) “ขอบคุณทุกคนที่รักขวัญและปกป้องขวัญ ทุกคนพยายามศึกษาชีวิตขวัญ ขอบคุณทุกคนที่เป็นโล่ ที่กำบัง แต่ขวัญก็ขออนุญาตว่า ครอบครัวขวัญก็ไม่ได้ดีอะไรหรอกค่ะ ครอบครัวใคร ใครก็รัก ถึงแม้ว่าทำร้ายกันยังไงเขาก็คือแม่ เขาก็คือพี่ ไม่มีอะไรจะพูดแต่ว่าเขาเลือกได้ เขาก็คงไม่อยากทำร้ายขวัญแบบนี้

(อยากบอกอะไรแม่) “ไม่บอกอะค่ะ เดี๋ยวเราคุยกัน เรื่องในบ้านก็คือเรื่องในบ้าน”

(พี่กอล์ฟให้กำลังใจอะไรบ้าง) “คนที่สามขวัญขอไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ”

(สภาพจิตใจเป็นไงบ้าง) “แฮปปี้ไหมพี่?” (สตรองขึ้นไหม) “คิดในมุมกลับกัน ถ้าเจอแบบขวัญ หัวอกหัวใจจะเป็นยังไง เราก็…”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image