เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่าช่วงเย็นที่ผ่านมาพบว่าได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนวัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมือง รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวสารทางสื่อสาธารณะต่างๆ ได้พากันไปยังบริเวณทุ่งนาชุมชนห้วยปลากั้ง ต.ริมกก ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย เนื่องจากชาวบ้านได้ร่วมกันจัดสรรพื้นที่นาข้าวติดกับถนนภายในซอย 24 ห่างจากวัดห้วยปลากั้งซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่ตั้งของพบโชคธรรมเจดีย์สูง 9 ชั้นและพระโพธิสัตว์กวนอิมที่สูงใหญ่เป็นสง่าประมาณ 1 กิโลเมตร โดยกลุ่มประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนพากันไปสัมผัสกับบรรยากาศของท้องทุ่งนาข้าวที่เขียวขจีและชาวบ้านมีการทำเป็นสะพานไม้ไผ่ผ่านเข้าไปกลางทุ่งนา ส่วนบริเวณลำห้วยขุนปลากั้งที่ไหลผ่านทุ่งนาดังกล่าวก็มีการทำเป็นฝายไม้ไผ่ขนาดเล็กและใบพัดไม้ไผ่เพื่อให้เกิดความสวยงามร่มรื่น รวมทั้งมีเพิงพักริมทุ่งเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศโดยมีพบโชคธรรมเจดีย์และพระโพธิสัตว์กวนอิมให้เห็นอยู่เบื้องหลังทุ่งนาได้อย่างชัดเจนด้วย โดยแต่ละคนต่างนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปจอดอยู่ภายในซอยจนทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความแออัด
นายศรีเมือง ทำมา ประธานชุมชนห้วยปลากั้ง กล่าวว่าชาวบ้านมีที่นาที่ได้รับการบริจาคให้ใช้ประโยชน์จากผู้ใจบุญที่ล่วงลับไปแล้วจำนวน 12 ไร่ จึงได้ร่วมกันพัฒนาโดยเห็นว่าชุมชนแห่งนี้เดิมเคยเป็นแหล่งอาศัยของปลาท้องถิ่นคือปลากั้งตามชื่อชุมชนโดยเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายปลาช่อนแต่มีขนาดเล็กกว่า จึงได้นำทุ่งนาดังกล่าวมาทำนาและนำพันธุ์ปลากั้งที่มีเหลืออยู่น้อยตามธรรมชาติในปัจจุบันมาปล่อยเพื่อฟื้นฟูและอนุลักษณ์พันธุ์ปลาชนิดนี้ให้อยู่คู่ชุมชน ส่วนบริเวณทุ่งนาดังกล่าวก็ทำเพิงหรือโรงนาไว้สำหรับให้ผู้คนไปพักและกลางทุ่งนาก็ทำเป็นสะพานไม้ไผ่ให้ดูสวยงาม มีการทดน้ำทำฝาย ฯลฯ เพื่่อให้ผู้คนได้ทราบว่าพวกเราชาวชุมชนจะร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติและยังเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ไปชมและสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติของนาข้าวอีกด้วย
นายศรีเมือง กล่าวอีกว่าในอนาคตกจะพัฒนาพื้นที่ให้มีที่สำหรับนั่งพักและเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ชาหรืออาหารรองรับได้อย่างสะดวกมากขึ้น รวมทั้งมีกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทีไปเยือนสามารถสัมผัสกับทุ่งนาที่เขียวขจีในช่วงนี้และเมื่อเข้าสู่ฤดูที่ข้าวออกรวงก็จะเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งซึ่งจะมีความสวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง จากนั้นเมื่อมีการเก็บเกี่ยวข้าวในทุ่งไปหมดแล้วทางชุมชนมีโครงการจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนๆ ละ 4 ไร่เพื่อปลูกพืชในฤดูแล้งเพื่อไม่ให้พื้นที่ว่างเว้นจากการเกษตรส่วนผลผลิตก็จะนำเข้าสู่ชุมชนต่อไป
สำหรับชุมชนห้วยปลากั้งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านราได้รับการสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนในการพัฒนาหมู่บ้านสู่รูปแบบมาตรฐานหมู่บ้านเชิงนิเวศ ตามโครงการหมู่บ้านเชิงนิเวศกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม จ.เชียงราย
