| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม การยางแห่งประเทศไทย โดยนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย นำคณะสื่อมวลชนสัญจรลงพื้นที่นำร่องสหกรณ์กองทุนสวนยางฯ จ.ตรัง ผู้ผลิตยางแผ่นรมควันมาตรฐาน จีเอ็มพี (GMP)
นายธีธัช กล่าวว่า ในแต่ละปีประเทศไทยสามารถส่งออกยางแผ่นรมควันหลายล้านบาท ปีที่เเล้วส่งออกประมาณ 6.4 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 35,628 ล้านบาท กทย.มีความพยายามผลักดันให้ยางแผ่นรมควันของประเทศไทยได้มาตรฐานระดับสากล จึงมีการกำหนดมาตรฐานเเละออกใบรับรองมาตรฐาน จีเอ็มพี ให้กับโรงงานผลิตยางแผ่นรมควัน โดยผ่านกระบวนการตรวจสอบตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 5906-2556 เรื่องการปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตยางแผ่นรมควัน (GOOD MANUFACTURING PRACTICES FOR RIBBED SMOKED SHEET) จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องอุตสาหกรรมยางของ กยท.
“กยท.ดูแลส่งเสริมการเเปรรูปด้วยการสร้างโรงอบ รมยางของสหกรณ์กองทุนสวนยางทั่วประเทศไทย 176 แห่ง สำหรับจังหวัดตรังมีสหกรณ์แปรรูปยางแผ่นรมควัน 30 สหกรณ์ หลังดำเนินการออกมาตรฐาน จีเอ็มพี 5 เดือน มีโรงยางแผ่นรมควันที่ผ่านการรองรับมาตรฐานจีเอ็มพี จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์กองทุนสวนยางโพธิ์โทน จำกัด,สหกรณ์กองทุนสวนยางวังคีรี จำกัด, สหกรณ์กองทุนสวนยางคลองปาง จำกัด,สหกรณ์กองทุนสวนยางหนองบัว จำกัด และสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองศรีจันทร์ จำกัด ส่วนสหกรณ์กองทุนสวนยางที่เหลือพร้อมจะให้เข้าตรวจเพื่อรับรองมาตรฐายต่อไป”
นายธีธัช กล่าวอีกว่า วันนี้มาตรฐานยางไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลคือยางแท่ง ส่วนมาตรฐานยางแผ่น จีเอ็มพี เริ่มต้นครั้งเเรกในโลกที่ประเทศไทย
“เราพยายามผลักดันให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพราะประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตยางอันดับ 1 ของโลก เรามีสิทธิ์ที่จะสร้างมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ผลตอบรับจากโรงงานต่างๆ หลังนำระบบจีเอ็มพีไปใช้ ทำให้ยางได้มาตรฐานขึ้น มีคุณภาพดีขึ้น ใช้เวลาน้อยลง ต้นทุนถูกลงประมาณกิโลกรัมละบาท” นายธีธัชกล่าว
