บิ๊กตู่ ชี้ ต่างชาติจะไม่เข้ามาลงทุนไทย หากยังมีการปลุกปั่น-บิดเบือน สร้างความไม่สงบ

“บิ๊กตู่” ชี้หากยังมีปลุกปั่น-บิดเบือน สร้างความไม่สงบในประเทศ ต่างชาติไม่กล้าลงทุน ย้ำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นภูมิคุ้มกัน ว่าจะทำอะไรต้องระวัง ชี้ขรก.ในอนาคตต้องเป็นผู้นำกำหนดกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย สู่แนวทางประชารัฐ


วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 11.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมายังศาลาประชาคมอ่าวอุดม จ.ชลบุรี เพื่อพบปะประชาชน พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนทุกคนปัญหาหลายอย่างได้รับการแก้ไขดีขึ้น อย่างเรื่องความมั่นคง ปัญหาอาชญากรรมลดน้อยลงกว่าในอดีต เนื่องจากตอนนั้นการเมืองเข้าไปยุ่งในทุกเรื่อง รัฐบาลพยายามอุดช่องโหว่ปัญหาต่างๆโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติ ขณะที่เรามีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นภูมิคุ้มกัน ที่ทำให้คำนึงว่าจะทำอะไรต้องระวัง สิ่งที่รัฐบาลทำตอนนี้คือการทำที่กลางทางดังนั้นก็ขอให้เข้าใจเพราะถ้าเข้าใจก็ไม่เป็นการกดดันรัฐบาลรัฐบาลมีเงินเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะให้ และในขณะที่ตนยังอยู่โรงงานขนาดใหญ่กำลังเข้ามาในประเทศไทย หลายบริษัทหลายแสนล้านที่เขายื่นความจำนง แต่เขาต้องดูว่าการลงทุนในระยะเวลา5 ปีต่อไปข้างหน้าคุ้มค่าไหม ถ้าบ้านเมืองยังไม่สงบ ยังมีการยุยงปลุกปั่น บิดเบือนกันอยู่ไม่มีใครเขามาหรอก

นายกฯ กล่าวต่อว่า เวลารัฐบาลเข้ามาไปถามเขาว่ายุทธศาสตร์จะทำอย่างไร ทำอย่างไรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร จะมีการส่งเสริมด้านไหนหรือเปล่า อย่าไปถามว่าจะได้เงินเท่าไหร่ มันจะได้คนที่ดีมีความรู้มีธรรมาภิบาลเข้ามา ทุกคนต้องมีความร่วมมือกันว่าจะทำอะไรเพื่อแผ่นดิน รัฐบาลก็มีหน้าที่ขับเคลื่อน ต่อไปนี้รัฐบาล ข้าราชการในยุคหน้าต้องเป็นผู้อำนวยความสะดวก ผู้เปิดงานเปิดเกณฑ์ กำหนดกรอบนโยบาย กฎหมาย และเอกชนต้องมาขับเคลื่อนร่วมกับประชาชน จึงกลายเป็นประชารัฐ ทั้งนี้ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ที่บางหน่วยงานเข้าตลาดหุ้นไปแล้ว มีผู้ถือหุ้นจำนวนมากเป็นล้านคนจะซื้อกลับมาก็ไม่มีเงินให้เขา เป็นล้านล้านบาท ก็ต้องเอาแค่ทำยังไงให้มันดี ทำให้ควบคุมได้ ให้โปร่งใส ให้ได้ประโยชน์ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน อย่างไรก็ตามขอให้ท่านคาดหวังว่า1ปีท่านจะได้อะไรจากตนและ 5 ปีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับท่าน เพราะตนจะยังอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่รู้ ขอเพียงอย่าร่วมมือกันทุจริตการทุจริตส่วนหนึ่งเกิดจาการเรียกผลประโยชน์ อีกส่วนเกิดจากการสมยอมเพื่อให้อำนวยความสะดวกของตัวเองให้เร็วขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจและมอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกแทน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image