พบถ้ำแห่งใหม่ ลึกที่สุดในโลก

ถ้ำใต้น้ำที่เป็นเจ้าของสถิติ “ลึกที่สุดในโลก” แต่เดิมคือ “ปอซโซ เดล เมอร์โร” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชนบทชานกรุงโรม ประเทศอิตาลี ความลึกที่เป็นสถิติของถ้ำแห่งนี้คือ 392 เมตร ถ้ำแห่งนี้แยกออกเป็นส่วนที่เป็นแนวดิ่งลึกลงไป 80 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่น้ำท่วมถึง จากนั้นจึงเอียงลาดลึกลงไปอีกราวครึ่งทางก่อนหักเลี้ยวและดิ่งตรงลงไปอีกครั้งจนถึงก้นถ้ำ

สถิติของถ้ำใต้น้ำในอิตาลี ถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิงเมื่อมีการค้นพบถ้ำแห่งใหม่ใน สาธารณรัฐเช็ก และได้รับการยืนยันความลึกอย่างเป็นทางการจากการใช้ยานสำรวจใต้น้ำไร้คนควบคุม (อาร์โอวี) ถ้ำดังกล่าวเรียกว่า ฮรานิคกา พร็อพพาสท์ ลึกถึง 404 เมตร ทำลายสถิติลึกที่สุดเดิมลงได้ 12 เมตร

คริสซ์ทอฟ สตาร์นอฟสกี นักดำน้ำลึกชาวโปแลนด์ เป็นคนแรกที่เดินทางเข้ามาสำรวจถ้ำแห่งนี้เมื่อปี 1999 และตั้งข้อสังเกตว่าด้วยสภาพโครงสร้างที่เป็นถ้ำหินปูนทำให้น่าเชื่อว่าจะมีความลึกมากกว่าที่ระดับความลึกที่ตนเองดำลงไปสำรวจในตอนนั้นมาก ดังนั้น ในเวลาต่อมา สตาร์นอฟสกี จึงนำทีมสำรวจผสมเช็ก-โปแลนด์ ซึ่งรวมทั้ง มาร์ซิน จัมคอฟสกี นักสำรวจและนักถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีผจญภัยกลับเข้าไปสำรวจอีกหลายครั้งในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจากสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก

ในการสำรวจด้วยการดำสำรวจเมื่อปี 2014 สตาร์นอฟสกีสามารถลงไปได้ลึกถึงระดับ 200 เมตร ซึ่งเชื่อกันในตอนนั้นว่าน่าจะเป็นความลึกสุดของถ้ำแล้ว อย่างไรก็ตาม สตาร์นอฟสกีพบช่องเปิดขนาดเล็กอีกช่องหนึ่ง เมื่อใช้อุปกรณ์วัดความลึกผ่านช่องเปิดดังกล่าวกลับพบว่า ถ้ำที่ต่อเนื่องออกไปนั้นลึกเกินกว่าความลึกสูงสุดของอุปกรณ์วัดที่ตนเองใช้อยู่ที่ 384 เมตร น้อยกว่าความลึกของปอซโซ เดล เมอร์โร เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

Advertisement

มาร์ซิน จัมคอฟสกี ระบุว่าด้วยความที่เป็นนักดำน้ำลึก ทำให้สตาร์นอฟสกีมุ่งมั่นที่จะสำรวจระบบถ้ำทั้งหมดให้ได้ ดังนั้น ทีมจึงกลับไปสำรวจใหม่อีกครั้งเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยการดำลงไปสำรวจของสตาร์นอฟสกีเช่นเดิม คราวนี้เขาสามารถเบียดตัวเองผ่านช่องเปิดแคบๆ ลงไปที่ความลึกระดับ 265 เมตรได้สำเร็จและปล่อยเครื่องวัดความลึกที่จุดนั้นอีกครั้ง อ่านค่าในจุดที่เชื่อว่าเป็นก้นถ้ำได้ว่า ถ้ำมีความลึกรวม 370 เมตร แต่กลับเป็นว่าความลึกดังกล่าวเป็นเพียงด้านบนสุดของเศษซากต่างๆ ที่กองพะเนินอยู่เหนือก้นถ้ำเท่านั้นเอง

ในการสำรวจเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ทีมสำรวจสามารถระบุความลึกที่แท้จริงของถ้ำฮรานิคกา พร็อพพาสท์ ได้ในที่สุด โดยอาศัยยานสำรวจใต้น้ำบังคับจากระยะไกลซอกซอนลงไปจนถึงก้นถ้ำ และพบว่ามีความลึกเกินกว่า 400 เมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกเกินขีดความสามารถของนักดำน้ำลึกทั้งหลายแล้ว ยกเว้นการดำน้ำแบบ “แซททูเรชั่น ไดฟ์วิง” หรือการดำน้ำระยะยาว ซึ่งมักใช้กันในอุตสาหกรรมน้ำมันในพื้นผิวน้ำเปิด ไม่สามารถนำมาใช้กับการสำรวจถ้ำได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ยานสำรวจหุ่นยนต์ดังกล่าว

ลักษณะกว้างใหญ่ของถ้ำ ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นถ้ำที่เกิดจากคุณลักษณะของหินตามธรรมชาติ หรือไม่ก็เป็นรอยแยกของแผ่นเปลือกโลก ในส่วนลึกของก้นถ้ำนั้น ทีมสำรวจพบทั้งต้นไม้ที่โค่นล้มและจมลงไปใต้น้ำ ท่อนซุงและถ้ำแยกอีกมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถ้ำแห่งนี้ผ่านการเปลี่ยนรูปมาแล้ว

Advertisement

เนื่องจากลักษณะถ้ำในปัจจุบัน ไม่มีทางที่เศษซากเหล่านั้นจะหลุดลงไปถึงก้นถ้ำได้แน่นอนนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image