เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ภายหลังประชาชนได้ทราบข่าวจากสำนักพระราชวังออกมาแถลงการณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เสด็จสวรรคต ยังคงสร้างความโศกเศร้าเสียใจไม่จางหาย ขณะเดียวกันก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ในการประกอบพระราชกรณียกิจ ในการดูแลพสกนิกรชาวไทย ครองราชย์มายาวนานถึง 70 ปี โดยเฉพาะพสกนิกรชาว จ.นครพนม ยังคงมีความภาคภูมิใจ เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พร้อม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เยี่ยมเยือนพสกนิกรในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึง ชาว จ.นครพนม ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2498 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลาผ่านมากกว่า 61 ปี
โดยทั้งสองพระองค์ได้ประทับแรมที่พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าฯหลังเก่า และทอดพระเนตรงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟเป็นครั้งแรก รวมถึงได้เสด็จไปนมัสการองค์พระธาตุพนม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นที่มาของภาพประวัติศาสตร์ บุคคลในภาพ แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ คุณยายวัย 102 ปี นำดอกบัว 3 ดอก ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณริมถนน สามแยกชยางกูร-เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ยังคงสร้างความประทบใจให้พสกนิกรชาวไทย ไม่เคยโรยรา จากอดีตถึงปัจจุบัน มาถึงวันนี้ ถึงแม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จะเสด็จสวรรคต แต่สำหรับพสกนิกรชาว จ.นครพนม ยังมีพระองค์อยู่ในดวงใจตลอดไป
เช่นเดียวกันกับ คุณตาบรม จันทนิตย์ อายุ 76 ปี พสกนิกรชาวบ้าน ศรีบุญเรือง หมู่ 11 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นหลานชาย แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ คุณยายวัย 102 ปี บุคคลในภาพที่ นำดอกบัว 3 ดอก ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้ออกมากล่าวเทิดทูนในหลวงอย่างซาบซึ้ง และภาคภูมิใจว่า ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ที่ยังภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมี และเป็นคนไทย โดยในช่วงหนึ่งของชีวิตตนได้จดจำภาพเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 ช่วงที่ตนอายุประมาณ 16 ปี ได้ทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อไปยังวัดพระธาตุพนม ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านหมู่บ้าน จึงได้ไปเฝ้ารอรับเสด็จ ถึงแม้ไม่มีโอกาสเห็นทั้งสองพระองค์ แต่ยังรู้สึกตื่นเต้นภูมิใจ และได้รู้ว่า คุณย่า คือ ย่าตุ้ม จันทนิตย์ วัย 102 ปี ถึงแก่ชรา แต่ยังมีความจงรักภักดี นำดอกบัวไปรอถวายริมถนน
จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่า ในช่วงเสด็จกลับ เวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้เสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อเดินเยี่ยมพสกนิกร ที่มารอรับเสด็จ ตั้งเช้าถึงบ่ายด้วยความจงรักภักดี และพระองค์ได้เดินทางรับการถวายดอกบัวเหี่ยว จำนวน 3 ดอก จากคุณย่าตุ้ม บริเวณริมถนน สามแยกชยางกูร-เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมี นายอาณัติ บุญนาค ช่างภาพส่วนพระองค์ได้บันทึกไว้ กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ ดอกไม้แห่งหัวใจ ผู้เฒ่าแห่งอีสาน กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ติดตาไทยไทยทั้งชาติ ที่สร้างความประทับใจแก่ชาวไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ แม่เฒ่าตุ้ม จะถึงแก่กรรมไป ตั้งแต่ปี 2501
คุณตาบรม จันทนิตย์ อายุ 76 ปี ภายหลังทางสำนักพระราชวัง ได้มีการส่งภาพมา คุณย่าตุ้มถวายดอกบัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ มาให้ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว รวมถึง ชาว จ.นครพนม เป็นอย่างมาก ซึ่งตนในฐานะหลานชายแม่ย่าตุ้ม รวมถึงเป็นคนไทยที่อยู่ใต้ร่มพระบารมี ได้ศึกษาติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์มาตลอดจากสื่อโทรทัศน์ รวมถึงเอกสารหนังสือที่รวบรวมพระราชกรณียกิจ ที่ทางหน่วยงานราชการส่งมาให้ ยิ่งทำให้มีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ตนคิดว่า พระองค์ไม่ใช่แค่พระราชา แต่พระองค์ทรงเป็นพ่อของลูกทุกคน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ พระองค์ยังห่วงพสกนิกรชาวไทยเสมือนลูกของพระองค์ จากนี้ไป สิ่งเดียวที่ตนจะตอบแทนพระองค์ได้ในฐานะลูกของพ่อ คือ การทำความดี และสั่งสอนให้ลูกหลานเป็นคนดีของสังคม และวอนชาวไทยร่วมทำความดีตอบแทนพ่อหลวง รวมถึงจดจำภาพแห่งความทรงจำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ รับถวายดอกบัวจาก คุณย่าตุ้ม ที่สื่อถึงความรัก ความเมตตา ของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทยไปตลอดชีวิต
