เปิดใจอดีตคนไร้บ้านสู่เจ้าของร้านย้อมผ้า ชีวิตใหม่จากพระเมตตาของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

นายชวน รุ่งสีทอง ผู้ประกอบการร้านเปี๊ยกย้อมผ้า ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากหาโอกาสไปลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ที่กรุงเทพฯ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้

โดยนายชวนเล่าว่า ในอดีตครอบครัวยากจนมาก อพยพมาจากจังหวัดนครราชสีมาและได้ไปอาศัยอยู่ที่นิคมสร้างตนเอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ทุกปีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและเยี่ยมเยียนราษฎรที่อำเภอสุคิริน  ตนยังจำภาพเมื่อครั้งได้เข้าเฝ้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด พระองค์ท่านตรัสว่า “ท่านสุขสบายดีไหม ข้าพเจ้าได้ให้ทำนาบนภูเขาไอร์ปาโจ ตำบลภูเขาทองเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือไม่” ซึ่งตนรู้สึกปลื้มปิติที่พระองค์ทรงห่วงใยราษฎรที่ยากจนและไม่ถือพระองค์   วันนั้นตนได้เพียงตอบกลับไปว่า ดีครับท่าน พร้อมกราบพระบาทพระองค์กราบทั้งน้ำตาด้วยความรักและเทิดทูนที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้ครอบครัวที่ยากจน ไร้บ้าน ไร้ที่ทำกิน ได้มีทุกอย่างและเลี้ยงดูครอบครอบครัวมาจนถึงทุกวันนี้ โดยพื้นที่ที่ได้รับพระราชทานจากพระองค์ยังช่วยให้ครอบครัวของน้องชายได้ใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวต่อไป

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปในบ้านของนายชวนก็ได้พบกับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ติดอยู่รอบบ้าน โดยนายชวนกล่าวว่า หากมีโอกาสจะเก็บพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้  ที่ผ่านมาในช่วงที่พระองค์ทรงประชวร ตนมักใช้เวลาหลักเลิกงานสวดมนต์และกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองพระองค์และขอให้หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว แต่สุดท้ายพสกนิกรชาวไทยก็ต้องโศกเศร้ากับการเสด็จสวรรคตของพระองค์ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

เจ้าของร้านย้อมผ้า อดีตคนไร้บ้าน1

Advertisement
ด้านนางพรพิศ จำปาทอง ภรรยานายชวน รุ่งสีทอง ได้เล่าถึงนางหนู จำปาทอง อายุ 84 ปี มารดาของตน ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโดยทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากมีอาการทางสมอง จำเป็นต้องเข้าทำการรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จนปัจจุบันอาการดีขึ้นเป็นลำดับ โดยกล่าวว่า “แม่มีอาการทางสมอง ซึ่งได้รับเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่อำเภอสุคิริน แล้วมีหน่วยแพทย์ตามเสด็จมาด้วยจึงได้วินิจฉัยอาการพร้อมทั้งขึ้นทะเบียนเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์”
นางพรพิศ ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่เด็กๆ เห็นพระองค์เสด็จฯ มาอำเภอสุคิรินทุกปี พร้อมกับมีการพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมาย ซึ่งการเดินทางเข้าพื้นที่อำเภอสุคิรินสมัยนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ถนนหนทางก็เต็มไปด้วยป่าเขาที่ราบสูง และเป็นหลุมเป็นบ่อแต่พระองค์ก็ยังเสด็จฯ พระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนพวกเราทุกปี ครอบครัวของตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวง จึงสอนลูกหลานให้รักและเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพราะท่านทรงดูแลพสกนิกรของพระองค์อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเฉพาะหลายชีวิตในครอบครัวของตนเองที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาของพระองค์
โอกาสนี้นายชวน รุ่งสีทอง จึงขอร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ด้วยการคิดราคาค่าย้อมผ้าในราคาพิเศษ 40-60 บาทสำหรับเสื้อ และ 100 บาทสำหรับกางเกง แก่ประชาชนที่ไว้ทุกข์ด้วยอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image