ตลาดโซดาแข่งขันเดือด หลังยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มอย่างสิงห์ คอร์เปอเรชั่น และไทยเบฟเวอเรจ ต่างเปิดตัวโซดาแบรนด์ใหม่ออกมาชิงตลาด โดยเน้นความกลมกล่อม แทนจากเดิมที่เน้นความซ่าเป็นหลัก
จากรายงานในวงการตลาด ระบุว่า ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดโซดาสูงถึง 90 % ได้เปิดตัวโซดาแบรนด์ใหม่ ชื่อว่า “โซดาลีโอ” และเริ่มวางขายในช่องทางต่างๆ เริ่มจากร้านค้าปลีก โดยคาดว่าจะมีราคาที่ประมาณ 8-9 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละช่องทางจำหน่าย สำหรับโซดาลีโอมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างไปจากโซดาสิงห์ คือต้องการเจาะกลุ่มคนที่ดื่มสุราผสมโซดาและน้ำ โดยโซดาลีโอมีจุดขายที่รสชาติกลมกล่อม ให้ความซ่าได้ยาวนาน สามารถใส่เป็นมิกเซอร์ได้โดยไม่ต้องผสมน้ำเพิ่ม
นายธนบูรณ์ อนันตธุรการ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ โซดาสิงห์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ตลาดโซดาในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่ในแต่ละปีเติบโตไม่มากนัก เพราะพฤติกรรมของผู้ดื่มมักนำไปผสมเครื่องดื่มบางประเภทเท่านั้น ต่างจากโซนยุโรปที่จะดื่มเพียวๆ หรือดื่มแทนน้ำเปล่า ดังนั้นโจทย์ของโซดาสิงห์จึงต้องการขยายโอกาสของการบริโภคและการรับรู้ไปสู่คนรุ่นใหม่มากขึ้น จะเห็นได้ว่ามีการทำตลาดทั้งการนำเสนอโซดาสิงห์ ที่เข้าไปเป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มต่างๆ และการทำแคมเปญโฆษณาเพื่อย้ำแบรนด์อะแวร์เนส เพื่อกระตุ้นในช่วงใกล้เทศกาล เช่น สงกรานต์ และปีใหม่ ที่ยอดขายของสินค้าดังกล่าวจะสูงกว่าช่วงปกติประมาณ 20%
ขณะที่อีกหนึ่งค่ายเครื่องดื่มอย่างไทยเบฟฯ โดยนายวิเชษฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาโซดาแบรนด์ใหม่ชื่อว่า “ร็อคเมาเท็น” เพื่อเจาะผู้บริโภคที่ชื่นชอบรสชาติกลมกล่อมเมื่อนำไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงบริษัทต้องการปรับภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มกลุ่มโซดาให้มีความพรีเมียม และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น โดยเน้นช่องทางจำหน่ายในร้านอาหารและสถานบันเทิงเป็นหลัก เนื่องจากช่องทางดังกล่าวมีการบริโภคโซดาที่เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแบรนด์ดังกล่าวได้เริ่มวางตลาดในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผ่านทางร้านค้า โชห่วย ร้านสะดวกซื้อ 7-11 อย่างต่อเนื่อง โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ขวดละ 9 บาท เท่ากับโซดาช้าง
นอกจากนี้ จากเฟซบุ๊กของบริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตโซดาร็อคเมาเท็น และโซดาช้าง ยังได้ระบุถึงการปรับแพคเกจจิ้งใหม่ของโซดาช้างให้เป็นโทนสีเขียว จากเดิมที่เป็นสีแดง โดยได้ลอนช์แพคเกจจิ้งตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
