เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 59 จากนโยบายของคณะทำงานจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อจัดระเบียบรถตู้ประจำทาง หมวด 2 วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร จากพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และย่านกองสลากเก่า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้เข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสาร 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 เส้นทางภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน และ ภาคตะวันออกบางจังหวัด สถานีขนส่งเอกมัย เส้นทางภาคตะวันออก และสถานีขนส่งสายใต้ ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี เส้นทางภาคตะวันตก ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ทุกคันรอบอนุสาวรีย์จะต้องมาใช้พื้นที่ถูกเตรียมไว้ ภายในวันพรุ่งนี้
โดยการเตรียมความพร้อมของประชาชนผู้ที่ใช้บริการยอมรับว่าต้องจัดการตัวเองทั้งเรื่องเวลาและการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูล เพื่อให้รู้จุดจอดของรถที่ตนเองต้องใช้บริการ และคงต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร
ด้านผู้ขายตั๋วรถ อย่างสายเดินรถตู้ กทม. ปากช่อง รายนี้ยอมรับว่า การเตรียมความพร้อมไม่มีความพร้อมใดๆ เลย เพราะทุกอย่างที่คุยไว้ไม่เป็นไปตามที่พูดคุย และเชื่อว่าน่าจะส่งผลต่อจำนวนผู้โดยสาร
แต่ทางด้านผู้ขับรถตู้สาย กทม. ชลบุรี รายนี้ บอกว่า ตนเองพร้อมที่จะปฏิบัติตตามเพราะได้ไปดูทำเลมาบ้างแล้วและรู้ว่าต้องไปจอดตรงจุดใด และให้บริการอย่างไรต่อประชาชน
ขณะที่การเตรียมความพร้อมของ 1 ในจุดจอด อย่างหมอชิต แห่งนี้ เมื่อมาตรวจดูการเตรียมความพร้อมพบว่า มีการนำป้ายบอกทาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเบื้องต้นมาติดตั้งบ้างแล้ว โดยสถานที่ที่ใช้เป็นชานชาลาของรถทัวร์เดิม และมีการขึ้นโครงเหล็กว่า เป็นจุดจอดรถตู้ ที่มากส่วนไหนของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยผู้อำนวยการกองกิจการเดินรถ เปิดเผยต่อทีมข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ จราจร ป้ายบอกทาง เจ้าหน้าที่ประจำจุด และการอำนวยความสะดวกให้รถตู้ ซึ่งต้องยอมรับว่า น่าจะมีความวุ่นวายพอสมควร แต่จะพยายามยึดรูปแบบของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นโยบายการจัดระเบียบรถตู้ที่ คสช. และภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและช่วยเรื่องการจราจรได้จริงหรือไม่ ต้องมาติดตามในระยะยาวและเสียงสะท้อนต่างๆ จากผู้ประกอบการและ ประชาชน เนื่องจากต้องมีการประเมินผลและนำเข้าคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไป
