‘ทินพันธุ์’ถวายสดุดีในหลวง 10 ข้อ ระบุ ทรงระงับวิกฤตการเมืองได้อย่างประเสริฐ

“ทินพันธุ์” ถวายสดุดี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 10 ข้อ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม สปท.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ตุลาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดย ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท. เป็นประธานการประชุม ซึ่งก่อนเข้าระเบียบวาระปกติ ประธาน สปท.ได้กล่าวถวายสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยนับแต่ทรงครองราชย์ 70 ปี นับตั้งแต่ปี 2489 ถึง 2559 พระองค์ทรงทุ่มเทสติปัญญา พระวรกาย ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ ตรากตรำบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ นานัปการ ดังนี้ 1.ทรงเป็นพระเจ้าทรงธรรม โดยปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรม 2.ทรงเป็นนักปกครองที่ดี ทรงเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของผู้รับการปกครองในทุกพระราชกรณียกิจ พระองค์ทรงเป็นนักปกครองในอุดมคติที่นักปรัชญาการเมืองแสวงกว่า 2,500 ปี และได้รับการยกย่องจากต่างประเทศว่าเป็นกษัตริย์ของกษัตริย์ 3.ทรงแบกรับภาระชาติที่หนักอึ้งไว้แต่พระองค์เดียวในรอบ 70 ปี ไม่อาจทรงวางมือหรือผ่องถ่ายไปให้ผู้อื่นได้ เมื่อเทียบกับนายกฯ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมารับภาระชาติ เมื่อพ้นวาระไม่ต้องเหนื่อยกับปัญหาใดๆ ของประเทศอีก 4.ทรงช่วยรักษาประชาธิปไตยไว้ตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ แม้จะเกิดปฏิวัติ รัฐประหาร หรือการกบฏเป็นครั้งคราว เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ประเทศไทยจะกลับเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และด้วยอุดมการณ์ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นสังคมคอมมิวนิสต์ได้

ร.อ.ทินพันธุ์กล่าวถวายสดุดีต่อว่า 5.ทรงสามารถระงับวิกฤตการเมืองได้อย่างประเสริฐ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งชาติ ให้อยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขและด้วยพระบารมีทำให้วิกฤตการเมืองที่วุ่นวาย รุนแรง โศกสลดที่เกิดขึ้นหลายครั้งสามารถระงับได้ รวมถึงพระองค์ทรงช่วยผ่าทางตันทางการเมืองในฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2549 ที่รัฐบาลไม่สามารถทำหน้าที่ได้ จึงทรงขอให้สถาบันตุลาการร่วมกันแก้ไขวิกฤตประเทศจนผ่านพ้นไปได้ 6.ทรงยึดมั่นในหลักนิติธรรมของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เมื่อเกิดวิกฤตการเมืองและมีข้อเรียกร้องขอนายกฯ พระราชทาน โดยอ้างถึงมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญบางฉบับ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดว่า มาตราดังกล่าวไม่ได้หมายถึงให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามใจชอบ หรือตัดสินใจได้ทุกเรื่อง เพราะจะทำเกินหน้าที่ ซึ่งการขอนายกฯพระราชทานไม่ใช่แบบประชาธิปไตย 7.ทรงทำโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการเพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร 8.ทรงพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นทางสายกลางในการพัฒนาของการดำเนินชีวิต 9.จากพระราชดำริและพระราชกรณียกิจของพระองค์ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทำให้ประชาชนไทยรอดพ้นวิกฤตต่างๆ และพระองค์ทรงได้รับรางวัลสดุดีพระเกียรติคุณ ถึง 44 ครั้ง และ 10.การปกครองจากพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม จึงได้รับการยกย่องจากผู้นำทั่วโลกว่า ทรงเป็นต้นแบบนักปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image