สธ.ชวนประชาชน ‘ทำดีที่สุดถวายเป็นพระราชกุศล’ พร้อมให้ รพ.สต.ร่วมบริการทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม  ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  ประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าขณะนี้ได้มอบนโยบายให้บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลังความดี  พร้อมให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่ง “ทำดีที่สุดถวายเป็นพระราชกุศล” ด้วย 3 กิจกรรมหลัก ดังนี้ 1.การเปลี่ยนความโทมนัสให้เป็นพลังความดี ประกอบด้วย กิจกรรมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลทุกวันอังคาร การสวดพระอภิธรรมถวายเป็นพระราชกุศลทุกวันพฤหัสบดี เวลา 15.52 น. เป็นเวลา 1 เดือน การทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 108 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลในวันที่ 2 ธันวาคม 2559  กิจกรรมการปฏิบัติธรรม 3  วัน ถวายเป็นพระราชกุศลครบ 50 วัน ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2559  การจัดอุปสมบทหมู่ 9 วัน และปฏิบัติธรรมสำหรับสตรีถวายเป็นพระราชกุศลครบ 100 วัน

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า การจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข การลงนามเรื่องที่ต้องการทำความดีที่สุดเพื่อถวายพระองค์ท่าน เช่น เลิกบุหรี่ อบายมุขอื่นๆ ในช่วง 100 วัน  จัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนและบุคลากรในสังกัดร่วมบริจาคโลหิต จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2559  ซึ่งสามารถบริจาคได้ในโรงพยาบาลทุกแห่งสังกัด สธ.  รวมทั้งเชิญชวนบริจาคอวัยวะ บริจาคตา อีกทั้ง ยังมีกิจกรรมให้ รพ.ปลูกต้นไม้  ดีเดย์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559  2.รวบรวมแนวพระราชดำรัส เกี่ยวกับสาธารณสุขที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้ว ว่าจะสืบสานอย่างไรให้มากยิ่งขึ้น และ 3.อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมถวายบังคมพระบรมศพ โดยได้ขอความร่วมมือกับบุคลากรในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้ดูแลประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด ที่จะเดินทางมาร่วมถวายบังคมพระบรมศพ โดยจะขอให้เดินทางมาพร้อมกันในการดูแลทางการแพทย์  ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีแนวทางแตกต่างกันไป

“สำหรับประชาชนทั่วไปที่จะเดินทางมาร่วมถวายบังคมพระบรมศพตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม เนื่องจากสภาพอาการที่ร้อน อาจเสี่ยงเป็นลมแดด โดยขอให้พกน้ำดื่มจิบอย่างต่อเนื่อง และไม่ควรกลั้นปัสสาวะ ส่วนผู้สูงอายุควรสวมผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อเตรียมพร้อมก็จะดี  ส่วนเรื่องสุขาเคลื่อนที่นั้น ขณะนี้ทราบว่าจะมีการเพิ่มอีก  สิ่งสำคัญผู้ป่วยโรคประจำตัว อย่างโรคความดันโลหิตสูง ควรพกยาติดตัวมาด้วย ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาหน่วยแพทย์บริเวณท้องสนามหลวงได้ 12 จุด” นพ.โสภณกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image